เกิดความขัดแย้งล่าสุดระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้และจีน สืบเนื่องจากแผนการก่อสร้างอนุสาวรีย์นักต่อสู้เพื่ออิสรภาพชาวเกาหลี Ahn Jung-guen ที่เมือง Harbin ในประเทศจีน ซึ่งก่อให้เกิดความไม่พอใจต่อชาวญี่ปุ่นเนื่องจากนักต่อสู้ชาวเกาหลีผู้นี้คือผู้ลอบสังหารนายก รมต.คนแรกของญี่ปุ่น เมื่อกว่า 100 ปีก่อน
นักต่อสู้เพื่ออิสรภาพชาวเกาหลี Ahn Jung-guen ลั่นไกสังหารอดีตนายกฯคนแรกของจักรวรรดิญี่ปุ่น Hirobumi Ito ที่เมือง Harbin ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีนเมื่อปี ค.ศ 1909 และในอีก 104 ปีต่อมา ระหว่างการเดินทางเยือนเมือง Harbin เมื่อเดือน ก.ค ปีนี้ ปธน.เกาหลีใต้ Park Geun-hae ได้ขอให้ทางการจีนก่อสร้างอนุสาวรีย์ของนักต่อสู้ชาวเกาหลีผู้นี้ในบริเวณที่อดีตนายกฯญี่ปุ่นถูกลอบสังหาร
แผนการดังกล่าวก่อให้เกิดการโต้แย้งอย่างรุนแรงระหว่างทางการญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ ทาง จนท.ญี่ปุ่นระบุว่าการสร้างอนุสาวรีย์ให้กับบุคคลที่ญี่ปุ่นเรียกว่าเป็นอาชญากรผู้นี้ มิได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อความสัมพันธ์ของสองประเทศ ขณะที่จนท.เกาหลีใต้โต้กลับว่าญี่ปุ่นไม่มีสิทธิพูดเช่นนั้นเพราะสิ่งที่ Ahn Jung-guen กระทำคือการตอบโต้ต่อการขยายอำนาจจักรวรรดินิยมของญี่ปุ่นในอดีต
ข้อพิพาทครั้งล่าสุดระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของญี่ปุ่นกับเพื่อนบ้านคือเกาหลีใต้กับจีน ยิ่งเปราะบาง เนื่องจากเวลานี้ญี่ปุ่นกำลังมีความขัดแย้งกับจีนในเรื่องพื้นที่ทับซ้อนในทะเลจีนตะวันออก ขณะเดียวกันดูเหมือนความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับเกาหลีใต้กำลังพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น โดยก่อนหน้านี้ทั้งจีนและเกาหลีใต้มักตำหนิญี่ปุ่นเป็นประจำ เมื่อมีนักการเมืองญี่ปุ่นเยี่ยมเยือนศาลเจ้า Yasakuni ซึ่งสร้างไว้เป็นอนุสรณ์สำหรับทหารญี่ปุ่นที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมทั้งบุคคลที่จีนและเกาหลีใต้ระบุว่าเป็นอาชญากรสงคราม
นักวิเคราะห์บางคนชี้ว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้แนวคิดชาตินิยมของชาวจีนและชาวเกาหลีใต้รุนแรงขึ้น ก็คือแผนของนายกฯญี่ปุ่น Shinzo Abe ที่ต้องการขยายศักยภาพทางทหารของญี่ปุ่นในช่วงที่กำลังมีข้อพิพาทด้านพรมแดนทางทะเลกับเพื่อนบ้าน
แต่อาจารย์ Jeff Kingston ผอ.ด้านเอเชียศึกษาของมหาวิทยาลัย Temple ในญี่ปุ่นเชื่อว่า ยิ่งจีนและเกหาลีใต้โกรธเคืองญี่ปุ่นมากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นการสนับสนุนแผนการเพิ่มกำลังทหารของนายกฯ Abe นักวิเคราะห์ผู้นี้ระบุว่ายิ่งจีนและเกาหลีใต้ออกมากล่าวโจมตีญี่ปุ่นต่อสาธารณชน นายกฯ Abe ก็ยิ่งมีข้ออ้างในการเพิ่มกำลังทหาร เปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญของญี่ปุ่น หรือเตรียมพร้อมรับศึกจากประเทศเพื่อนบ้าน
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้กับจีนนั้น แม้ไม่สู้ดีนักภายหลังสงครามเกาหลีต่อเนื่องมาถึงช่วงการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือในช่วงไม่กี่ปีมานี้ รวมทั้งการที่เกาหลีใต้ไม่พอใจที่จีนไม่ช่วยประณามเกาหลีเหนือจากเหตุการณ์ที่เกาหลีเหนือจมเรือรบของเกาหลีใต้เมื่อปี ค.ศ 2010 แต่ดูเหมือนสองประเทศต่างมีแผลจากน้ำมือของทหารญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 คล้ายๆกัน จึงมีลักษณะของการต่อต้านญี่ปุ่นร่วมกันอยู่ไม่น้อย เห็นได้จากที่ ปธน.Park เลือกที่จะเยือนกรุงปักกิ่งเป็นแห่งแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังมิได้ตอบรับคำเชิญจากนายกฯ Shinzo Abe ของญี่ปุ่นแต่อย่างใด
แต่อาจารย์ Jeff Kingston แห่งมหาวิทยาลัย Temple ระบุว่าความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้กับจีนนั้นเป็นไปในรูปของการค้ามากกว่าการเมืองหรือการทหาร และว่าทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ต่างเป็นพันธมิตรที่เข้มแข็งของสหรัฐในเอเชีย
อาจารย์ Jeff Kingston ชี้ว่าเกาหลีใต้ยังไม่กล้าเดิมพันอนาคตไว้กับจีน และยังเกรงว่าจีนจะขึ้นเป็นมหาอำนาจในภูมิภาคนี้ ตนจึงไม่เชื่อว่าเกาหลีใต้จะยอมตัดความสัมพันธ์กับญี่ปุ่นโดยสิ้นเชิง และยังต้องการให้ญี่ปุ่นคานอำนาจของจีนไว้เช่นกัน ดังนั้นเชื่อว่าท่าทีล่าสุดเกี่ยวกับการก่อสร้างอนุสาวรีย์ของ Ahn Jung-guen จึงน่าจะเกิดจากประเด็นกระแสชาตินิยมในเกาหลีใต้เองมากกว่า ซึ่งในที่สุดแล้วตนไม่เชื่อว่าจะมีการขยายผลของประเด็นนี้ออกไป
รายงานจาก Daniel Schearf / เรียบเรียงโดย ทรงพจน์ สุภาผล
นักต่อสู้เพื่ออิสรภาพชาวเกาหลี Ahn Jung-guen ลั่นไกสังหารอดีตนายกฯคนแรกของจักรวรรดิญี่ปุ่น Hirobumi Ito ที่เมือง Harbin ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีนเมื่อปี ค.ศ 1909 และในอีก 104 ปีต่อมา ระหว่างการเดินทางเยือนเมือง Harbin เมื่อเดือน ก.ค ปีนี้ ปธน.เกาหลีใต้ Park Geun-hae ได้ขอให้ทางการจีนก่อสร้างอนุสาวรีย์ของนักต่อสู้ชาวเกาหลีผู้นี้ในบริเวณที่อดีตนายกฯญี่ปุ่นถูกลอบสังหาร
แผนการดังกล่าวก่อให้เกิดการโต้แย้งอย่างรุนแรงระหว่างทางการญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ ทาง จนท.ญี่ปุ่นระบุว่าการสร้างอนุสาวรีย์ให้กับบุคคลที่ญี่ปุ่นเรียกว่าเป็นอาชญากรผู้นี้ มิได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อความสัมพันธ์ของสองประเทศ ขณะที่จนท.เกาหลีใต้โต้กลับว่าญี่ปุ่นไม่มีสิทธิพูดเช่นนั้นเพราะสิ่งที่ Ahn Jung-guen กระทำคือการตอบโต้ต่อการขยายอำนาจจักรวรรดินิยมของญี่ปุ่นในอดีต
ข้อพิพาทครั้งล่าสุดระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของญี่ปุ่นกับเพื่อนบ้านคือเกาหลีใต้กับจีน ยิ่งเปราะบาง เนื่องจากเวลานี้ญี่ปุ่นกำลังมีความขัดแย้งกับจีนในเรื่องพื้นที่ทับซ้อนในทะเลจีนตะวันออก ขณะเดียวกันดูเหมือนความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับเกาหลีใต้กำลังพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น โดยก่อนหน้านี้ทั้งจีนและเกาหลีใต้มักตำหนิญี่ปุ่นเป็นประจำ เมื่อมีนักการเมืองญี่ปุ่นเยี่ยมเยือนศาลเจ้า Yasakuni ซึ่งสร้างไว้เป็นอนุสรณ์สำหรับทหารญี่ปุ่นที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมทั้งบุคคลที่จีนและเกาหลีใต้ระบุว่าเป็นอาชญากรสงคราม
นักวิเคราะห์บางคนชี้ว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้แนวคิดชาตินิยมของชาวจีนและชาวเกาหลีใต้รุนแรงขึ้น ก็คือแผนของนายกฯญี่ปุ่น Shinzo Abe ที่ต้องการขยายศักยภาพทางทหารของญี่ปุ่นในช่วงที่กำลังมีข้อพิพาทด้านพรมแดนทางทะเลกับเพื่อนบ้าน
แต่อาจารย์ Jeff Kingston ผอ.ด้านเอเชียศึกษาของมหาวิทยาลัย Temple ในญี่ปุ่นเชื่อว่า ยิ่งจีนและเกหาลีใต้โกรธเคืองญี่ปุ่นมากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นการสนับสนุนแผนการเพิ่มกำลังทหารของนายกฯ Abe นักวิเคราะห์ผู้นี้ระบุว่ายิ่งจีนและเกาหลีใต้ออกมากล่าวโจมตีญี่ปุ่นต่อสาธารณชน นายกฯ Abe ก็ยิ่งมีข้ออ้างในการเพิ่มกำลังทหาร เปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญของญี่ปุ่น หรือเตรียมพร้อมรับศึกจากประเทศเพื่อนบ้าน
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้กับจีนนั้น แม้ไม่สู้ดีนักภายหลังสงครามเกาหลีต่อเนื่องมาถึงช่วงการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือในช่วงไม่กี่ปีมานี้ รวมทั้งการที่เกาหลีใต้ไม่พอใจที่จีนไม่ช่วยประณามเกาหลีเหนือจากเหตุการณ์ที่เกาหลีเหนือจมเรือรบของเกาหลีใต้เมื่อปี ค.ศ 2010 แต่ดูเหมือนสองประเทศต่างมีแผลจากน้ำมือของทหารญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 คล้ายๆกัน จึงมีลักษณะของการต่อต้านญี่ปุ่นร่วมกันอยู่ไม่น้อย เห็นได้จากที่ ปธน.Park เลือกที่จะเยือนกรุงปักกิ่งเป็นแห่งแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังมิได้ตอบรับคำเชิญจากนายกฯ Shinzo Abe ของญี่ปุ่นแต่อย่างใด
แต่อาจารย์ Jeff Kingston แห่งมหาวิทยาลัย Temple ระบุว่าความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้กับจีนนั้นเป็นไปในรูปของการค้ามากกว่าการเมืองหรือการทหาร และว่าทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ต่างเป็นพันธมิตรที่เข้มแข็งของสหรัฐในเอเชีย
อาจารย์ Jeff Kingston ชี้ว่าเกาหลีใต้ยังไม่กล้าเดิมพันอนาคตไว้กับจีน และยังเกรงว่าจีนจะขึ้นเป็นมหาอำนาจในภูมิภาคนี้ ตนจึงไม่เชื่อว่าเกาหลีใต้จะยอมตัดความสัมพันธ์กับญี่ปุ่นโดยสิ้นเชิง และยังต้องการให้ญี่ปุ่นคานอำนาจของจีนไว้เช่นกัน ดังนั้นเชื่อว่าท่าทีล่าสุดเกี่ยวกับการก่อสร้างอนุสาวรีย์ของ Ahn Jung-guen จึงน่าจะเกิดจากประเด็นกระแสชาตินิยมในเกาหลีใต้เองมากกว่า ซึ่งในที่สุดแล้วตนไม่เชื่อว่าจะมีการขยายผลของประเด็นนี้ออกไป
รายงานจาก Daniel Schearf / เรียบเรียงโดย ทรงพจน์ สุภาผล