ผู้นำจีนวิพากษ์วิจารณ์ว่า การที่นานาชาติออกมาตรการลงโทษต่าง ๆ ต่อรัสเซียนั้น เป็นการใช้ดำเนินการ ‘ในทางที่ผิด’ ขณะที่ ผู้นำรัสเซียตำหนิชาติตะวันตกว่า เป็นผู้ก่อวิกฤตโลก ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แสดงความเห็นเกี่ยวกับมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจที่มีการดำเนินการต่อรัสเซียระหว่างการเข้าร่วมการประชุมออนไลน์ในวันพฤหัสบดี ของผู้นำสมาชิก BRICS ซึ่งประกอบด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ โดยผู้นำกรุงปักกิ่งยังเรียกร้องให้ทุกประเทศในกลุ่มร่วมแสดงศักยภาพทางเศรษฐกิจของตน เพื่อพิสูจน์ว่า แต่ละประเทศนั้นมีมาตรฐานสูงในระดับสากลดังที่องค์การสหประชาชาติกำหนดไว้จริง
ปธน.สี ยังกล่าวต่อที่ประชุมสุดยอดกลุ่ม โดยใช้ล่าม ด้วยว่า “เราต้องละทิ้งวิธีคิดในสมัยสงครามเย็น และปิดกั้นการเผชิญหน้า และต่อต้านการดำเนินมาตรการลงโทษเพียงฝ่ายเดียว – และการใช้มาตรการลงโทษในทางที่ผิด” และว่า “การประชุมของเราในวันนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีความสำคัญยิ่งสำหรับอนาคตของมนุษยชาติ – เพราะในฐานะประเทศกำลังพัฒนาและตลาดเกิดใหม่นั้น กลุ่มประเทศ BRICS ก้าวขึ้นมาแสดงความรับผิดชอบของเราเองแล้ว”
ปัจจุบัน จีน คือประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในกลุ่มนี้ โดยถือครองสัดส่วนถึงกว่า 70% ของมูลค่าเศรษฐกิจรวมกันของทั้ง 5 ประเทศ
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำในวันพฤหัสบดีด้วย เรียกร้องให้สมาชิก BRICS ทำงานร่วมกันมากขึ้น พร้อมถือโอกาสโจมตีชาติตะวันตกด้วยการกล่าวหาว่า ประเทศเหล่านั้น คือ ผู้ที่ร่วมกันก่อให้เกิดวิกฤตโลกดังเช่นในปัจจุบัน
ปธน.ปูติน กล่าวต่อที่ประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ว่า “ด้วยพื้นฐานของความซื่อสัตย์และการร่วมมือที่เอื้อประโยชน์ให้แก่กัน เราจะสามารถมองหาหนทางออกจากสถานการณ์วิกฤตที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจโลก อันเป็นผลมาจากการกระทำที่เห็นแก่ตัวและไม่มีการไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนของแต่ละรัฐ”
ผู้นำกรุงมอสโกยังกล่าวหาชาติตะวันตกด้วยว่า “ใช้กลไกทางการเงิน” เพื่อ “โยนความผิดของตนในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ไปให้โลกทั้งโลกแทน”
- ที่มา: รอยเตอร์