ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง เดินทางถึงสนามบินออร์ลีย์ กรุงปารีส ในวันอาทิตย์ เพื่อเริ่มการเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาคร็อง ในโอกาสครบรอบ 60 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ
การเดินทางมาฝรั่งเศสครั้งนี้ ถือเป็นการเยือนยุโรปครั้งแรกของประธานาธิบดีสีตั้งแต่ปี 2019 โดยในกำหนดการครั้งนี้ ปธน.สี จะเดินทางเยือนเซอร์เบียและฮังการีด้วย
การเลือกฝรั่งเศสเป็นจุดหมายแรกในรอบ 5 ปี แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างจีนกับฝรั่งเศส โดยเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ปธน.มาคร็อง ก็เดินทางเยือนจีนตามคำเชิญของปธน.สี เช่นกัน
ปธน.สี มีกำหนดหารือกับประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป เออร์ชูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ในกรุงปารีส วันจันทร์นี้ และจะมีพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการจากมาคร็องในวันเดียวกัน จากนั้นในวันอังคาร ผู้นำจีนกับฝรั่งเศสมีกำหนดเดินทางเยี่ยมชมเทือกเขาพิรินี จากนั้นจะหารือกันในประเด็นที่เกี่ยวกับรัสเซียรุกรานยูเครน และความกังวลของชาติตะวันตกเรื่องที่รัสเซียได้รับการสนับสนุนจากจีนในการผลิตอาวุธ
เมื่อวันพฤหัสบดี ปธน.มาคร็อง ให้สัมภาษณ์กับสื่อ Economist ว่า "เราต้องทำงานร่วมกับจีนเพื่อสร้างสันติภาพ" ต้องดึงจีนเข้าร่วมในการจัดระเบียบโลก และปกป้อง "ผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์" ในการสานสัมพันธ์ทางธุรกิจกับจีน พร้อมกล่าวหาจีนว่าไม่ให้ความเคารพต่อกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ
ในการเยือนจีนเมื่อปีที่แล้ว ปธน.มาคร็อง กล่าวว่า ยูโรปไม่ควรถูกดึงเข้าไปอยู่กลางการเผชิญหน้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับประชาธิปไตยและไต้หวัน พร้อมเตือนถึงการใช้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแบบพหุภาคีเป็นเครื่องมือในการกดดันกันและกันของชาติมหาอำนาจ
ขณะเดียวกัน องค์กรสิทธิมนุษยชนหลายแห่งขอให้ผู้นำฝรั่งเศสหยิบยกเรื่องสิทธิมนุษยชนขึ้นมาพูดกับปธน.สี โดยเฉพาะการปฏิบัติต่อชาวมุสลิมอุยกูร์ในมณฑลซินเจียง และการจับกุมคุมขังผู้สื่อข่าวต่างชาติ
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนไม่เชื่อว่า ปธน.มาคร็อง จะนำประเด็นอ่อนไหวดังกล่าวขึ้นมาพูดกับผู้นำจีน เมื่อพิจารณาจากบรรยากาศการจัดงานต้อนรับอย่างหรูหรายิ่งใหญ่ครั้งนี้
ทางด้าน แจนกา โอเอร์เทล ผู้อำนวยการโครงการเอเชีย ของ European Council on Foreign Relations ชี้ว่า "ประเด็นหลักที่มาคร็องต้องการสื่อถึงสี คือการสนับสนุนทางทหารของจีนต่อรัสเซีย และการแทรกแซงกลไกการตลาดของรัฐบาลปักกิ่ง" แต่การสื่อสารทั้งสองประเด็นนี้อาจไม่ได้สร้างแรงกระเพื่อมให้กับท่าทีของจีนมากนัก "เพราะสีมิได้เดินทางเยือน (ฝรั่งเศส) เพื่อซ่อมแซมความสัมพันธ์ เนื่องจากในมุมมองของผู้นำจีนนั้น ทุกอย่างปกติดี"
- ที่มา: เอเอฟพี