สหรัฐมักหยิบยกประเด็นเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั้งในประเทศจีนและเกาหลีเหนือ ขึ้นมาพูดและแสดงความห่วงใยอยู่บ่อยๆ ดังนั้น การประท้วงการใช้กำลังเกินกว่าเหตุของตำรวจในอเมริกาและการเผยแพร่รายงานเกี่ยวกับ CIA คุกลับและการทรมานผู้ต้องสงสัย รวมทั้งโอกาสวันสิทธิมนุษยชนในสัปดาห์นี้ จึงเป็นโอกาสที่จีนและเกาหลีเหนือจะได้แสดงปฏิกิริยาต่อรายงานเกี่ยวกับ CIA ที่วุฒิสภาสหรัฐเผยแพร่ออกมาเมื่อวันอังคาร
สำนักข่าว Xinhua ของจีนมีบทบรรณาธิการที่กล่าวว่า ถึงเวลาที่สหรัฐควรแก้ปัญหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศของตนเอง และว่าสหรัฐไม่เป็นแม่แบบที่เหมาะสม หรือมีคุณสมบัติพอที่จะเป็นผู้ตัดสินผู้อื่นในเรื่องนี้ได้
CCTV โทรทัศน์ของทางการจีน นำเสนอรายงานในเรื่องคุกลับและการทรมานผู้ต้องสงสัยอย่างยืดยาว และผู้นำเสนอรายงานให้ความเห็นส่งท้ายว่า สิ่งที่ได้เห็นในภาพยนตร์ดูจะเป็นความจริง
ส่วนกระทรวงการต่างประเทศของจีนมีถ้อยแถลงแสดงความไม่เห็นด้วยกับการทรมาน เรียกร้องให้สหรัฐพิจารณาความผิดพลาดของตน เปลี่ยนวิถีทาง และยึดมั่นในพันธกรณีระหว่างประเทศ
แต่การแสดงความคิดเห็นออนไลน์ในเรื่องเดียวกันนี้ สะท้อนให้เห็นความวิตกกังวลของประชาชนชาวจีนเกี่ยวกับการใช้การทรมานผู้ถูกคุมขังในประเทศจีนเอง เช่นผู้ใช้ชื่อ White Dove เขียนข้อความว่า วิธีการทรมานของ CIA เทียบไม่ได้เลยกับการปฏิรูปการให้การศึกษาแรงงานจีนในยุคสมัยการปฏิวัติวัฒนธรรม เมื่อจีนใช้วิธีการทรมานเพื่อปิดปากผู้ที่คัดค้านรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม บทบรรณาธิการของ Xinhua กล่าวไว้ด้วยว่า จีนยินดีรับฟังคำแนะนำที่เป็นมิตร รวมทั้งเรื่องสิทธิมนุษยชน และกล่าวเตือนสหรัฐว่าไม่ควรปล่อยปละละเลยปัญหาเหล่านี้ในประเทศ ในขณะที่แสดงความเข้มงวดกวดขันต่อต่างประเทศ
ส่วนปฏิกิริยาของเกาหลีเหนือนั้น สำนักข่าวของรัฐบาลเกาหลีเหนื อ้างคำกล่าวของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของตนที่กล่าวว่า การปฏิบัติต่อผู้ต้องสงสัยของ CIA ไร้มนุษยธรรม
เกาหลีเหนือกล่าวหาว่าสหประชาชาติไม่ให้ความสนใจกับรายงานเรื่อง CIA รวมทั้งเรื่องความโหดร้ายทารุณของตำรวจในอเมริกา ในขณะที่อยากหารือเรื่องสิทธิมนุษยชนของเกาหลีเหนือ รวมทั้งเร่งเร้าให้คณะมนตรีความมั่นคงขององค์การสหประชาชาติดำเนินคดีกับเกาหลีเหนือในเรื่องนี้ในศาลโลก
แต่สื่อจีนไม่ได้มองเรื่องนี้ในแง่ของสิทธิมนุษยชนแต่เพียงด้านเดียว นสพ. Beijing News ให้ความเห็นว่า พรรค Democrat ของสหรัฐ เผยแพร่รายงานเรื่องนี้ออกมา โดยมุ่งหมายจะเปิดโปงการทำสงครามต่อต้านการก่อการร้ายแบบประธานาธิบดี George W. Bush ในขณะที่ข้อมูลที่เผยแพร่ เป็นเพียงส่วนของข้อมูลทั้งหมด ที่พรรค Democrat อยากจะให้ประชาชนได้รับรู้เท่านั้น