จีนพร้อมรับการเปลี่ยนปีนักษัตรจากมะโรงเป็นมะเส็ง ในช่วงปลายเดือนมกราคมนี้ ท่ามกลางความหวังว่าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในแดนมังกร
ชาวจีนเตรียมการเฉลิมฉลองเข้าสู่ปีใหม่ ที่จะเป็นคราวของนักษัตรปีมะเส็ง หรือ ปีงูเล็ก ซึ่งในวัฒนธรรมจีนนั้น งูเป็นภาพลักษณ์ที่ค่อนข้างซับซ้อน เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ของผู้พิทักษ์ จิตวิญญาณ การเจริญพันธุ์ และความมีอายุยืนยาว แต่อีกด้านหนึ่งก็เป็นสิ่งที่สื่อถึงความชั่วร้ายและภัยอันตรายอีกด้วย
หวัง จวน ผู้เชี่ยวชาญด้านตำนานพื้นบ้านของจีน จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ให้ทัศนะกับเอพีว่า “จากภาพที่มองเห็น (งู)มันสามารถมอบความรู้สึกหวาดกลัวให้เราเพราะมันสามารถทำร้ายคนได้ แต่เราได้เปลี่ยนให้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมด้วยการลดความก้าวร้าวของภาพลักษณ์ของงูและเพิ่มสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมขึ้นมาแทน”
เช่นเดียวกับปีนักษัตรอื่น ๆ งูเป็นปีนักษัตรที่มีเสน่ห์และคุณค่าทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเพื่อโอบรับปีมะเส็งของชาวจีนในปีนี้ มีการลดทอนภาพที่เป็นลางร้ายน่ากลัวด้วยภาพของสัตว์เลื้อยคลานในมุมน่ารักน่าเอ็นดูแทน
อีกด้านหนึ่ง ชาวจีนจำนวนมากยังคงแสดงความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของเศรษฐกิจแดนมังกรในปีงูที่จะมาถึงนี้เช่นกัน เพราะเศรษฐกิจจีนยังคงอยู่ในทิศทางที่ไม่สดใสนัก ด้วยความต้องการผู้บริโภคที่ยังคงซบเซา แม้ว่าจะมีสารพัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาในช่วงไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ก็ตามที
อีกปัจจัยหนึ่ง คือ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาขู่ว่าจะปูพรมมาตรการกำแพงภาษีอย่างน้อย 60% กับสินค้านำเข้าจากจีน และปิดช่องโหว่ที่ผู้ส่งออกแดนมังกรใช้ในการจำหน่ายสินค้าราคาถูกในสหรัฐฯ
แกรี อึ้ง นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส จาก Natixis Corporate and Investment Banking ให้ทัศนะกับเอพีว่า “จะมีแรงกดดันด้านการค้ามากขึ้น ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในปี 2024 ที่ผ่านมา” และว่า “จะมีมาตรการจำกัดด้านการลงทุน ซึ่งเป็นความไม่แน่นอนที่จีนไม่ต้องการเท่าไรนัก”
ฝั่งผู้บริโภคชาวจีนลดการใช้จ่ายในสินค้าไม่จำเป็น อย่างเครื่องสำอาง แอลกอฮอล์ และเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ครอบครัวจีนจำนวนมากเลือกจะประหยัดและอดออมมากกว่าออกมาจับจ่าย เพราะความไม่แน่นอนด้านตลาดแรงงาน ที่เป็นผลพวงมาจากราคาอสังหาริมทรัพย์ และหลักทรัพย์อื่น ๆ ที่ลดลง รวมทั้งค่าแรงที่ต่ำในจีน
อึ้ง เสริมว่า “ผู้บริโภคอาจไม่ได้คาดหวังว่าชีวิตและรายได้ของพวกเขาจะดีขึ้น และนั่นทำให้คนมีแนวโน้มที่จะเก็บเงินมากขึ้นกว่าเดิม” และนักเศรษฐศาสตร์ผู้นี้ แนะว่า นโยบายที่จีนควรผลักดัน คือ “ปลุกจิตวิญญาณของผู้คน” ให้เปลี่ยนแปลงทัศนคติในการใช้จ่าย
อย่างไรก็ตาม เขาทิ้งท้ายว่า “แต่ในเวลานี้ นโยบายส่วนใหญ่มุ่งเน้นเรื่องการสร้างเสถียรภาพในทุกด้าน ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะเห็นเรื่องเซอร์ไพรส์ในเชิงบวก และนั่นอาจไม่ได้ช่วยให้เห็นทิศทางเศรษฐกิจที่สดใสนัก” สำหรับจีน
ทั้งนี้ จีนจะเข้าสู่ปีนักษัตรงูเล็ก ในวันที่ 29 มกราคมนี้
- ที่มา: เอพี
กระดานความเห็น