เศรษฐกิจของจีนฟื้นตัวได้อย่างน่าประทับใจหลังจากรัฐบาลสามารถเข้าควบคุมการระบาดใหญ่ของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้เมื่อปีที่แล้ว โดยตัวเลขดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจหลายรายการของจีนที่ออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในระดับที่สูงกว่าของหลายประเทศด้วย
นักวิเคราะห์หลายรายมองว่า ความสามารถของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในการบังคับใช้มาตรการควบคุมโรคอย่างเด็ดขาดช่วยให้รัฐบาลกรุงปักกิ่งสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศให้กลับคืนสู่สภาวะปกติได้เร็วกว่าประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยทั้งหลาย ที่รัฐบาลไม่มีอำนาจแบบนั้น
ลูร์เดส คาซาโนวา ผู้อำนวยการสถาบันตลาดอุบัติใหม่ แห่งมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ บอกกับผู้สื่อข่าว วีโอเอ ว่า “นโยบายของจีน ในการควบคุมสถานการณ์การระบาดนั้นเข้มงวดอย่างมาก และเส้นสายอำนาจของพรรคคอมมิวนิสต์จีนยิ่งทำให้การดำเนินมาตรการเข้มงวดต่างๆ เป็นไปได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับสิ่งที่รัฐบาลชาติอื่นๆ ทั่วโลก”
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพี ของจีนในไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว ขยายตัว 6.5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ตัวเลขทั้งปีนั้น แสดงให้เห็นการขยายตัวที่ 2.3 เปอร์เซ็นต์ ตามข้อมูลของรัฐบาลจีน โดยตัวเลขดังกล่าวเป็นสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากแปลกใจ เพราะผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของประเทศดิ่งลงอย่างหนักเนื่องจากมาตรการล็อคดาวน์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2020
รายงานข่าวระบุว่า จีน ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก ใช้มาตรการกระตุ้นหลายรายการเพื่อฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจ เช่น การออกพันธบัตรรัฐบาล การลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และการยกเว้นการเก็บภาษี
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายแสดงความสงสัยเกี่ยวกับความสามารถของเศรษฐกิจจีนที่จะขยายตัวต่อเนื่อง โดยอ้างถึงปัญหาภายในประเทศ เช่น ภาระหนี้ในประเทศของรัฐบาล เป็นต้น ขณะที่ บริษัทจัดอันดับ Credit Suisse เพิ่งปรับลดอันดับของจีน จาก Overweight (น้ำหนักมากกว่าน้ำหนักในดัชนีตลาด) มาเป็น Market Weight (น้ำหนักเท่ากับน้ำหนักในดัชนีตลาด) ไปเรียบร้อยแล้ว โดยอ้างถึง ศักยภาพอันจำกัดของจีดีพีจีนที่จะขยายตัวได้ต่อไป และปัจจัยลบอื่นๆ
ดั๊ก แบร์รี จาก U.S.-China Business Council ให้ความเห็นว่า ปัญหาเช่น สังคมสูงอายุ และโอกาสที่จะเกิดการระเบิดของหนี้เสียของจีน คือสิ่งที่รอเวลาปรากฎตัวออกมาในอนาคตด้วยเช่นกัน