จีนลงทุนมากมายมหาศาลในแอฟริกาในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทางการจีนประเมินว่ามีพลเมืองจีนกว่า 20,000 คนอาศัยอยู่ใน 3 ประเทศในแถบแอฟริกาตะวันตกที่ซึ่งเกิดการระบาดของโรค คือ เซียร่า-ลีโอน ไลบีเรีย และกินี
นอกจากนี้สื่อของทางการจีนยังระบุด้วยว่า ปัจจุบันมีชาวแอฟริกันหลายแสนคนอาศัยอยู่ในมณฑลกวางตุ้งทางภาคใต้ของจีน โดยแต่ละเดือน มีชาวแอฟริกันเดินทางเข้ามาประเทศจีนราว 40,000 คน นั่นหมายความว่าจีนมีความเสี่ยงไม่น้อยที่จะมีผู้ติดเชื้ออีโบล่าจากแถบแอฟริกาตะวันตก เข้ามาในประเทศ
คุณ Martin Taylor เจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลก ผู้ทำงานร่วมกับทางการจีนเพื่อป้องกันการระบาดของเชื้ออีโบล่า กล่าวว่าจากตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อในแอฟริกาตะวันตก ประกอบกับการเดินทางระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นตลอดเวลา จึงมีความจำเป็นที่ต้องเตรียมการรับมืออย่างเข้มงวด คุณ Taylor ระบุว่าทางการจีนมีมาตรการหลายอย่างในการป้องกันผู้ติดเชื้ออีโบล่า เช่นการเพิ่มระบบตรวจสอบตามสนามบินและท่าเรือต่างๆ และได้จัดทำแนวทางปฏิบัติสำหรับเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขทั่วประเทศ ในการติดตามตรวจสอบผู้ติดเชื้อ
นอกจากนี้รัฐบาลจีนยังได้ส่งความช่วยเหลือด้านต่างๆ ไปให้ 3 ประเทศในแอฟริกา เช่นเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ อาหารและเสบียง มูลค่ารวม 53 ล้านดอลล่าร์
ด้านฑูตเซียร่า-ลีโอนประจำกรุงปักกิ่ง นาย Victor Foh ได้แสดงความยกย่องต่อความช่วยเหลือของจีนดังกล่าว โดยกล่าวว่าความช่วยเหลือของจีนนั้นไม่ใช่แค่ให้กับเซียร่า-ลีโอนเท่านั้น แต่ยังเผื่อแผ่ไปถึงไลบีเรียและกินีด้วย
ขณะเดียวกัน บริษัทยารายใหญ่ของจีน Sichuan Pharmaceutical Holding Group กำลังเร่งขอใบรับรองจากสำนักงานอาหารและยาของจีน สำหรับยารักษาโรคอีโบล่า ซึ่งทางบริษัททดลองใช้ได้ผลมาแล้วกับหนู และกำลังเร่งขอให้มีการทดลองกับมนุษย์ภายในสิ้นปีนี้
ทางองค์การสหประชาชาติ ประกาศในวันจันทร์ว่าจนถึงขณะนี้จีนบริจาคเงินให้กับโครงการอาหารโลกไปแล้ว 6 ล้านดอลล่าร์ เพื่อช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนอาหารในแอฟริกาตะวันตกซึ่งเป็นผลมาจากการระบาดของเชื้ออีโบล่า
อย่างไรก็ตาม คุณ Brett Rierson ผอ.โครงการอาหารโลกประจำประเทศจีน เชื่อว่าจีนควรส่งความช่วยเหลือไปมากกว่านี้ คุณ Rierson กล่าวว่าในฐานะที่จีนมีมหาเศรษฐีจำนวนมากและเป็นประเทศที่ลงทุนในแถบแอฟริกาตะวันตกมากที่สุด ขณะนี้จึงเป็นโอกาสอันดีที่บริษัทจีนและบรรดามหาเศรษฐีชาวจีนจะสร้างผลกระทบครั้งใหญ่ในด้านความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม
นักวิเคราะห์หลายคนยังคงมีคำถามอยู่ว่า ระบบสาธารณสุขของจีน ตลอดจนสื่อมวลชนที่ถูกควบคุมอย่างเข้มงวด จะสามารถตอบสนองได้ดีแค่ไหนหากพบผู้ติดเชื้ออีโบล่าในประเทศจีนขึ้นมาจริงๆ หลังจากสัปดาห์ที่แล้ว มีข่าวว่าชายชาวไนจีเรียผู้หนึ่งถูกกักตัวไว้ที่สนามบินเมือง Ningbo เพราะเจ้าหน้าที่พบว่าเขามีไข้ขึ้นสูงและมีอาการคล้ายโรคอีโบล่า และได้รับการปล่อยตัวในเวลาต่อมาเมื่อไข้ลดลง แต่รายงานข่าวที่ออกมานั้นมิได้มาจากสื่อในประเทศจีน แต่มาจากสื่อของไต้หวัน
รายงานจาก Shannon Van Sant ห้องข่าว VOA / เรียบเรียงโดยทรงพจน์ สุภาผล
