เงินหยวนมีค่าลดลงมากกว่า 3% นับตั้งแต่รัฐบาลจีนลดค่าเงินหยวนลงตั้งแต่วันอังคาร แต่ในวันพฤหัสบดีสำนักข่าวซินหว่ารายงานว่า เจ้าหน้าที่ของธนาคารประชาชนจีนได้พยายามบรรเทาความกังวลของนักลงทุนที่เกรงว่าค่าเงินหยวนจะลดลงอีก โดยประกาศว่าขณะนี้เงินหยวนมีค่าใกล้เคียงกับราคาอ้างอิงตามกลไกตลาดแล้ว
ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า จีนกำลังเตรียมปล่อยให้เงินหยวนมีค่าลดลงถึง 10% แต่วันนี้รองผู้ว่าการธนาคารประชาชนจีน Yi Gang ออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าวโดยบอกว่าไร้สาระและไม่มีความน่าเชื่อถือ
ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นทั่วเอเชียเริ่มฟื้นตัวในวันพฤหัสบดี หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางจีนออกมาแสดงความเห็นข้างต้น โดยตลาดหุ้นใหญ่ๆ ในเอเชียและทั่วโลกได้ปรับตัวลดลงมากในช่วง 2 วันที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่าประเทศต่างๆ อาจแข่งกันลดค่าเงินจนกลายเป็น “สงครามค่าเงิน” เพื่อกระตุ้นการส่งออกในประเทศตน
แต่บทบรรณาธิการใน นสพ.Global Times ของรัฐบาลจีน ซึ่งตีพิมพ์ในวันพฤหัสบดีระบุว่า สงครามค่าเงินที่คาดว่าจะเกิดจากการลดค่าเงินหยวนเป็นเรื่องเหลวไหล เนื่องจากค่าเงินหยวนขึ้นอยู่กับกลไกตลาด จึงสามารถมีค่าขึ้นและลงได้
คุณ Francis Lun ซีอีโอของ GEO Securities บอกว่าอาจต้องใช้เวลาราว 1 ปีกว่าที่การลดค่าเงินหยวนจะส่งผลต่อเศรษฐกิจระดับมหภาค และราว 6 เดือนกว่าจะส่งผลกระทบกับภาคการส่งออก
คุณ Stefan Scharffetter แห่งบริษัทเพื่อการลงทุนของเยอรมนี AG Frankfurt บอกว่าเป็นเรื่องยากที่จะระบุว่าจีนจะหยุดมาตรการลดค่าเงินหยวนหลังจากที่ใช้มาแล้ว 3 ครั้งหรือไม่ แต่หากจีนตัดสินใจลดค่าเงินหยวนต่อไป ก็อาจเป็นแรงกดดันต่อตลาดหุ้นทั่วโลก เพราะจะเป็นการส่งสัญญาณให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนย่ำแย่กว่าที่คิดไว้ และอาจส่งผลร้ายแรงต่อเศรษฐกิจโลก
ด้านนักวิเคราะห์ Nicholas Lardy แห่ง Peterson Institute กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงค่าเงินหยวนครั้งนี้ ทำให้จีนมีความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการเศรษฐกิจจีนมากขึ้นในตลาดการค้าโลก
ส่วน ศ.Campbell Harvey จาก Duke University เชื่อว่าจีนต้องการให้เงินหยวนกลายเป็นสกุลหลักของโลกเหมือนเงินดอลล่าร์และเงินยูโร ซึ่งต้องอ้างอิงตามกลไกตลาดโลก
(ผู้สื่อข่าว William Gallo รายงาน / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)