Xi Jinping เข้ารับตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมนิวนิสต์จีนตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วแทนปธน.Hu Jintao ก่อนที่จะได้รับการรับรองให้เป็นประธานาธิบดีจีนคนใหม่ในวันพฤหัสบดี ส่วนนายกรมต.คนใหม่ Li Keqiang จะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันศุกร์แทนนายกฯ Wen Jiabao ที่เกษียณอายุแล้วเช่นกัน
ผู้นำจีนชุดใหม่ทั้ง 2 คนจะต้องนำประเทศจีนรับมือการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบันและต้องฝ่าฟันความท้าทายหลายประการ ปธน. Xi Jinping ให้สัญญาว่าจะพยายามฟื้นฟูศก.จีน ลดปัญหามลพิษ และปราบปรามคอรัปชั่นในหมู่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน ซึ่งล้วนเป็นปัญหาสำคัญในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม ประเด็นหนึ่งที่มิได้ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือในการประชุมของสภาประชาชนจีนครั้งนี้คือ การปฏิรูปการเมือง ซึ่งเป็นประเด็นที่นายกรมต. Wen Jiabao ระบุไว้ในการประชุมของสภาประชาชนจีนเมื่อปีที่แล้ว โดยในครั้งนั้นนายกรมต.Wen เตือนให้ระวังเหตุการณ์โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่เหมือนกับการปฏิวัติวัฒนธรรมซึ่งอาจเกิดขึ้นได้หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญๆเกิดขึ้นในประเทศจีน
แต่โฆษกสภาประชาชนจีน Fu Ying กล่าวว่าคงจะเป็นเรื่องไม่ยุติธรรมหากจะบอกว่าการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของจีนในขณะนี้ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของการปฏิรูปการเมือง เพียงแต่นี่ไม่ใช่การปฏิรูปการเมืองตามแบบประเทศทางตะวันตกเท่านั้น โฆษก Fu Ying บอกว่าเธอเดินทางเยือนประเทศตะวันตกมาหลายประเทศ และก็พบว่าประเทศเหล่านั้นมีปัญหาไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าจีน และอาจมากกว่าเสียด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่มีใครที่เรียกร้องให้ประเทศเหล่านั้นปฏิรูปการเมือง
เมื่อเดือนมกราคม บรรดานักข่าวและนักรณรงค์ชาวจีนราว 100 คน ร่วมลงนามในคำร้องขอให้รัฐบาลจีนผ่อนคลายการควบคุมองค์กรต่างๆ จัดให้มีระบบตุลาการอิสระ ยกเลิกการควบคุมทางอินเทอร์เนตและสื่อมวลชน
คุณ Ai Xiaoming ผู้สร้างภาพยนตร์สารคดีผู้หนึ่งชี้ว่า ความหวังของประชาชนจีนที่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงภายใต้คณะผู้นำชุดใหม่นั้นมีสูงมาก แต่ปัญหาคือกลุ่มธุรกิจที่ใกล้ชิดกับบรรดาผู้นำจีนและได้ประโยชน์จากการเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจจีนนั้น อาจไม่ต้องการให้มีการปฏิรูปการเมืองเกิดขึ้น
นักวิจารณ์หลายคนชี้ว่าปัญหาหลายอย่างที่เกิดขึ้นในสังคมจีนขณะนี้ เช่นปัญหาที่ดิน ปัญหาสิ่งแวดล้อมและการคอรัปชั่นนั้น เป็นผลมาจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจจีน และการจะจัดการปัญหาเหล่านี้ได้ต้องอาศัยการปฏิรูปการเมืองเพื่อลดความไม่เท่าเทียมของคนในสังคม
ผู้นำจีนชุดใหม่ทั้ง 2 คนจะต้องนำประเทศจีนรับมือการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบันและต้องฝ่าฟันความท้าทายหลายประการ ปธน. Xi Jinping ให้สัญญาว่าจะพยายามฟื้นฟูศก.จีน ลดปัญหามลพิษ และปราบปรามคอรัปชั่นในหมู่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน ซึ่งล้วนเป็นปัญหาสำคัญในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม ประเด็นหนึ่งที่มิได้ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือในการประชุมของสภาประชาชนจีนครั้งนี้คือ การปฏิรูปการเมือง ซึ่งเป็นประเด็นที่นายกรมต. Wen Jiabao ระบุไว้ในการประชุมของสภาประชาชนจีนเมื่อปีที่แล้ว โดยในครั้งนั้นนายกรมต.Wen เตือนให้ระวังเหตุการณ์โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่เหมือนกับการปฏิวัติวัฒนธรรมซึ่งอาจเกิดขึ้นได้หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญๆเกิดขึ้นในประเทศจีน
แต่โฆษกสภาประชาชนจีน Fu Ying กล่าวว่าคงจะเป็นเรื่องไม่ยุติธรรมหากจะบอกว่าการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของจีนในขณะนี้ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของการปฏิรูปการเมือง เพียงแต่นี่ไม่ใช่การปฏิรูปการเมืองตามแบบประเทศทางตะวันตกเท่านั้น โฆษก Fu Ying บอกว่าเธอเดินทางเยือนประเทศตะวันตกมาหลายประเทศ และก็พบว่าประเทศเหล่านั้นมีปัญหาไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าจีน และอาจมากกว่าเสียด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่มีใครที่เรียกร้องให้ประเทศเหล่านั้นปฏิรูปการเมือง
เมื่อเดือนมกราคม บรรดานักข่าวและนักรณรงค์ชาวจีนราว 100 คน ร่วมลงนามในคำร้องขอให้รัฐบาลจีนผ่อนคลายการควบคุมองค์กรต่างๆ จัดให้มีระบบตุลาการอิสระ ยกเลิกการควบคุมทางอินเทอร์เนตและสื่อมวลชน
คุณ Ai Xiaoming ผู้สร้างภาพยนตร์สารคดีผู้หนึ่งชี้ว่า ความหวังของประชาชนจีนที่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงภายใต้คณะผู้นำชุดใหม่นั้นมีสูงมาก แต่ปัญหาคือกลุ่มธุรกิจที่ใกล้ชิดกับบรรดาผู้นำจีนและได้ประโยชน์จากการเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจจีนนั้น อาจไม่ต้องการให้มีการปฏิรูปการเมืองเกิดขึ้น
นักวิจารณ์หลายคนชี้ว่าปัญหาหลายอย่างที่เกิดขึ้นในสังคมจีนขณะนี้ เช่นปัญหาที่ดิน ปัญหาสิ่งแวดล้อมและการคอรัปชั่นนั้น เป็นผลมาจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจจีน และการจะจัดการปัญหาเหล่านี้ได้ต้องอาศัยการปฏิรูปการเมืองเพื่อลดความไม่เท่าเทียมของคนในสังคม