เมื่อวันศุกร์ กองทัพจีนส่งหน่วยลาดตระเวณพร้อมรบมุ่งหน้าไปยังบริเวณช่องแคบไต้หวัน ขณะที่คณะผู้แทนจากรัฐสภาสหรัฐฯ เดินทางเยือนกรุงไทเปโดยไม่มีการประกาศล่วงหน้าเพื่อแสดงการสนับสนุนไต้หวันอย่างเต็มที่ ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ห้าคน เดินทางถึงไต้หวันเมื่อคืนวันพฤหัสบดีเพื่อเริ่มกำหนดการเยือนเป็นเวลาสองวัน ถือเป็นครั้งที่สองในรอบเดือนที่สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ เดินทางเยือนไต้หวัน
ระหว่างการเดินทางเยือนไต้หวันของนักการเมืองสหรัฐฯ ทั้งในครั้งนี้และครั้งที่แล้ว กองทัพจีนได้ส่งหน่วยลาดตระเวณพร้อมรบไปยังช่องแคบไต้หวัน ซึ่งเป็นบริเวณอ่อนไหวที่กั้นระหว่างไต้หวันและจีน
เมื่อวันศุกร์ กองบัญชาการยุทธบริเวณภาคตะวันออกของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ระบุว่า ทางกองทัพจีนได้จัดกองกำลังทางเรือและทางอากาศไปลาดตระเวณในลักษณะพร้อมรบบริเวณช่องแคบไต้หวัน เพื่อรับมือกับสถานการณ์ความตึงเครียดในปัจจุบัน
ทางกองทัพจีนยังระบุว่า “ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนจีน” และการป้องกันอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนเป็นภารกิจอันสูงส่งของกองทัพจีน อย่างไรก็ตาม กองทัพจีนไม่ได้ให้รายละเอียดไปมากกว่านี้
ในวันเดียวกัน กระทรวงกลาโหมไต้หวันมีรายงานประจำวันว่า เครื่องบินรบจีนแปดลำ รวมถึงเครื่องบินทิ้งระเบิด เอช-6 บินเข้าเขตป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวัน แม้จะห่างจากแผ่นดินหลักของไต้หวันมากก็ตาม โดยเครื่องบินฝูงนี้บินไปใกล้เกาะพราตัส ซึ่งเป็นเกาะในควบคุมของไต้หวันในทะเลจีนใต้
ทั้งนี้ จีนมักประณามการเดินทางเยือนไต้หวันของนักการเมืองสหรัฐฯ โดยกระทรวงต่างประเทศจีนระบุว่า ได้ทำเรื่องร้องเรียนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการเดินทางเยือนครั้งล่าสุดของกลุ่มสมาชิกสภาสหรัฐฯ จากทั้งสองพรรค โดยระบุว่า การใช้ไต้หวันเป็นเครื่องมือทางการเมืองนั้นเป็น “ความพ่ายแพ้”
ในวันศุกร์ ส.ส. มาร์ก ทาคาโน ประธานคณะกรรมการด้านกิจการทหารผ่านศึกของสภาล่างสหรัฐฯ และผู้นำคณะผู้แทนสหรัฐฯ ในครั้งนี้ กล่าวชื่นชมประธานาธิบดีไต้หวัน ไช่ อิง-เหวิน ถึงความเป็นผู้นำของเธอ และกล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และไต้หวันเป็นไปในทางบวกและสร้างประโยชน์ได้มากกว่าช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา
เขายังกล่าวด้วยว่า ไต้หวันเป็น “ประเทศที่มีประชาธิปไตยที่ประสบความสำเร็จ เป็นหุ้นส่วนที่พึ่งพาได้ และเป็นพลังด้านบวกของโลกนี้”
สหรัฐฯ ไม่มีความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับไต้หวันเช่นเดียวกับประเทศส่วนใหญ่ แต่ก็เป็นพันธมิตรระดับนานาชาติที่สำคัญที่สุดของไต้หวัน รวมถึงยังเป็นผู้จัดส่งอาวุธให้ไต้หวันด้วย
ส.ส. แนนซี เมซ หนึ่งในคณะผู้แทนสหรัฐฯ ในภารกิจนี้ ทวีตข้อความว่า สถานทูตจีนในกรุงวอชิงตันเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกเลิกการเดินทางยือนครั้งนี้หลังมีข่าวออกไป แต่ทางคณะไม่ยกเลิก
เธอยังทวีตภาพของเธอกับเครื่องบินไอพ่นของกองทัพอากาศสหรัฐฯ หลังเดินทางถึงไต้หวัน พร้อมข้อความว่า “เพิ่งเดินทางถึงสาธารณรัฐไต้หวัน” ซึ่งเป็นคำเรียกชื่อประเทศที่มักใช้โดยผู้สนับสนุนการเป็นเอกราชของไต้หวัน
ทั้งนี้ จีนยกระดับการกดดันทางทหารและทางการเมืองต่อไต้หวันเพื่อแสดงการอ้างอธิปไตยเหนือไต้หวัน ในขณะที่ผู้นำไต้หวันรับปากว่า จะรักษาสันติภาพกับจีน แต่ก็จะปกป้องไต้หวันหากถูกโจมตีเช่นกัน
- ที่มา: สำนักข่าวรอยเตอร์