ชิลีประกาศยกเลิกการประชุมสุดยอด Asian Pacific Economic Cooperation (APEC) ที่กำหนดไว้ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งสหรัฐฯเคยหวังว่าจะใช้เป็นเวทีลงนามความตกลงการค้ากับจีน และการประชุมสภาพภูมิอากาศโลก COP25 ต้นเดือนธันวาคม เนื่องจากความวุ่นวายภายในประเทศ
ประธานาธิบดี เซบาสเตียน พิเญร่า กล่าววันพุธว่า เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากมากที่ต้องยกเลิกการประชุมเอเปค (APEC) ซึ่งเป็นเวทีการหารือการค้าของประเทศแถบมหาสมุทรแปซิฟิก นอกจากนี้ยังต้องล้มเลิกการประชุมสุดยอดด้านสภาวะอากาศโลก หรือ COP25 อีกด้วย
การประท้วงเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม เพื่อต่อต้านการขึ้นราคาตั๋วค่าโดยสารรถไฟใต้ดินในกรุงซานติอาโกอีก 4% ก่อนที่จะลุกลามไปเป็นการประท้วงปัญหาคอร์รัปชั่น และความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจทั่วประเทศ มีผู้เสียชีวิตจากการประท้วงในชิลีไปแล้วอย่างน้อย 20 ราย
เมื่อวันจันทร์ ประธานาธิบดีพิเญร่าได้ตัดสินใจปลดคณะรัฐมนตรี 8 คน เพื่อบรรเทาความโกรธแค้นของผู้ประท้วง แต่ความรุนแรงยังคงไม่ลดลง
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีพินเนร่าซึ่งเป็นมหาเศรษฐีแนวคิดอนุรักษ์นิยม เสนอว่าจะทำตามความต้องการของผู้ประท้วงด้วยการขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำและเงินบำนาญ รวมทั้งลดราคายาและค่าโดยสารระบบขนส่งมวลชนต่าง ๆ
ด้านทำเนียบขาวแสดงความแปลกใจต่อคำประกาศยกเลิกการประชุมของชิลีครั้งนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ประธนาธิบดีทรัมป์มีแผนจะเดินทางไปร่วมประชุมและพบหารือกับประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง และผู้นำคนอื่น ๆ โดย ปธน.ทรัมป์ หวังว่าจะใช้เวทีเอเปคลงนามข้อตกลงทวิภาคีในระดับเริ่มต้น หรือ Phase One กับจีน