สเตลา หว่อง และครอบครัว จิบชาเขียวร้อนๆ ทานขนมขบเคี้ยว ใต้ร่มไม้ของกลุ่มต้นซากุระรุ่นแรก ที่ปลูกไว้ในกรุงวอชิงตัน เมื่อปี ค.ศ. 1912 และรับลมเย็นสบายบริเวณอ่างเก็บน้ำ ไทดัล เบซิน แหล่งท่องเที่ยวอีกจุดที่ต้องมาเยือนในกรุงวอชิงตัน
คุณสเตลา หว่อง บินตรงจากเกาะฮ่องกงมายังกรุงวอชิงตัน เพื่อมาเยี่ยมครอบครัว รวมทั้งถือโอกาสชมซากุระอันสวยงามในฤดูใบไม้ผลิของกรุงวอชิงตัน เธอบอกว่า แม้จะมีโอกาสได้ไปเยือนญี่ปุ่นมาบ้างแต่ก็ไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับซากุระและอากาศอบอุ่นเท่ากับที่กรุงวอชิงตัน ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่น่าอัศจรรย์ใจ และคุ้มค่ากับการวางแผนการเดินทางมาอย่างดี
ด้านไมค์ แอนเดอร์สัน ที่อาศัยอยู่ในกรุงวอชิงตัน ก็ยังถือโอกาสที่อากาศอบอุ่นในเดือนเมษายน พาครอบครัว พร้อมสุนัขลาบาร์ดอร์และโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ 5 ตัว มาสูดอากาศดีๆ รอบๆ อ่างเก็บน้ำไทดัล เบซิน ด้วย
คุณไมค์ บอกว่า เขาไม่ค่อยมีโอกาสออกมาชมซากุระเท่าไหร่นัก แต่วันนี้เหมือนอากาศเป็นใจ และสุนัขทั้ง 5 ตัวของเขาก็ได้รับความรักความเอ็นดูจากนักท่องเที่ยวที่มาชมซากุระ จนกลายเป็นขวัญใจในเทศกาลชมซากุระ เพราะมีคนเข้ามาถ่ายรูปด้วยตลอดทาง
ส่วนนายคริสโตส เดอวาริส และครอบครัว ออกมานั่งปิกนิคในตอนบ่ายคล้อย รับอากาศสดใสกับแดดอ่อนๆ ใต้ต้นซากุระและลมเย็นที่พัดผ่านอ่างเก็บน้ำไทดัล เบซิน เพื่อฉลองวันเกิดของลูกสาวล่วงหน้า 1 วัน และยังคงประทับใจและตื่นตากับซากุระบานสะพรั่งเหมือนทุกปี
คุณคริสโตส บอกว่า ปีนี้ซากุระส่วนใหญ่จะผลิดอกสีขาวมากกว่าชมพูระเรื่อ บวกกับตอนนี้เป็นโค้งสุดท้ายของซากุระที่จะยังบานอยู่บนต้น ก่อนจะร่วงโรยตามธรรมชาติ แต่โดยรวมก็ยังดูสวยงามและน่าชมอยู่ดี และตั้งใจว่าจะหาเวลามาปิกนิคกับครอบครัวแบบนี้อีกในปีหน้า
อย่างไรก็ตาม ความสวยงามของต้นซากุระนับพันต้นเฉพาะในพื้นที่อ่างเก็บน้ำไทดัล เบซิน ต้องเผชิญกับความเสี่ยงล่าสุด จากปัญหาระดับน้ำทะเลหนุนสูงขึ้น ที่ทำให้เกิดน้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่ ตามการเปิดเผยของนายเจฟฟ์ ไรน์โบลด์ เจ้าหน้าที่หน่วยงานดูแลอุทยานของรัฐบาลสหรัฐฯ มองว่า ทางแก้ไขที่ทำได้ คือ การสร้างกำแพงกันน้ำท่วม และปรับทางเดินรอบอ่างเก็บน้ำไทดัล เบซิน เพื่อให้รองรับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาต่อเนื่องได้ ซึ่งประมาณการณ์ว่า อาจต้องใช้งบประมาณสูงถึง 500 ล้านดอลลาร์ เพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานรอบพื้นที่อ่างเก็บน้ำ
สำหรับเทศกาลชมดอกซากุระบานประจำปี เริ่มจัดขึ้นอย่างเป็นทางการครั้งเเรกเมื่อปี ค.ศ. 1935 โดยต้นซากุระนี้รัฐบาลญี่ปุ่นมอบให้เป็นของขวัญเชื่อมสัมพันธไมตรีกับสหรัฐฯ โดยนายยูกิโอะ โอซากิ นายกเทศมนตรีกรุงโตเกียว ซากุระต้นแรกนำส่งถึงสหรัฐฯ ปี ค.ศ. 1910 แต่ซากุระชุดแรกกลับติดโรคไปเสียก่อน
ทางรัฐบาลญี่ปุ่นจึงได้มอบต้นซากุระชุดใหม่มาให้ปลูกในปี ค.ศ. 1912 โดยได้อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ "เฮเลน เฮอร์รอน ทาฟต์” (Helen Herron Taft) เป็นผู้ลงมือปลูกซากุระต้นแรก ณ บริเวณอ่างเก็บน้ำไทดัล เบซิน และเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันกรุงวอชิงตัน มีต้นซากุระมากถึง 3,800 ต้น ทั่วบริเวณ National Mall และดึงดูดนักท่องเที่ยวราว 1.5 ล้านคนให้มาชมซากุระกันทุกปี