ในสหรัฐ มีการสำรวจสำมะโนประชากรทุกๆ 10 ปี ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ผลการสำรวจประจำปีคริสต์ศักราช 2010 ซึ่งนับถึงวันที่ 1 เมษายน ปี 2010 นี้ ออกมาในวันอังคาร รายงานนั้นระบุว่า สหรัฐมีประชากรรวมทั้งสิ้น 3,08,745,538 คน จำนวนดังกล่าว เป็นสิ่งกำหนดจำนวนที่นั่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในรัฐสภา
อย่างไรก็ตาม รายงานการสำรวจชุมชนอเมริกันของสำนักงานสำมะโนประชากรที่ออกมาไม่กี่วันก่อนผลการสำรวจรอบ 10 ปีนั้น มีข้อมูลที่ให้รายละเอียดมากกว่ามาก และแยกแยะหลายด้านรวมทั้งระดับฐานะทางการเงิน การศึกษา และความหลากหลายของชนเชื้อชาติต่างๆ ที่อพยพเข้ามาตั้งหลักแหล่งในสหรัฐ แม้กระทั่งในเมืองเล็กเมืองน้อย
การสำรวจชุมชนอเมริกันนั้น ประกอบด้วยข้อมูลตัวเลขการประเมินที่รวบรวมในเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นประโยชน์มากสำหรับนักวิเคราะห์ทั้งหลาย เพราะจะได้ข้อมูลใหม่ๆ เร็วขึ้น ไม่ต้องรอผลการสำรวจสำมะโนครัวที่ทำทุกๆ 10 ปี
การสำรวจชุมชนอเมริกันในช่วงปีคริสต์ศักราช 2005-2009 ประเมินว่า มีคนต่างด้าวในสหรัฐราว 37 ล้านคน ทั้งที่ถูกต้องตามกฏหมายและที่ไม่มีเอกสารถูกต้อง ซึ่งเพิ่มจาก 10 ปีก่อนราว 6 ล้านคน
William Frey แห่งสถาบัน Brookings กล่าวว่า ข้อมูลใหม่นี้ แสดงให้เห็นเป็นครั้งแรกว่า รูปแบบการเข้ามาตั้งหลักฐานในสหรัฐของคนต่างชาตินั้น ต่างจากกลุ่มคนอพยพสมัยก่อนที่มักรวมตัวกันอยู่ตามเมืองใหญ่ๆ อย่าง นิวยอร์ค ชิคาโก ไมอามี และลอสแอนเจลีส ซึ่งอาจเป็นเพราะเพื่อจะได้อยู่รวมกับญาติพี่น้องหรือคนรู้จักจากประเทศเดียวกัน แต่ตอนนี้ รูปการณ์ด้านคนเข้าเมืองไม่ได้เป็นแบบนั้น คนอพยพเข้ามาอยู่ในสหรัฐรุ่นใหม่มากกว่าครึ่ง โยกย้ายออกไปอยู่ชานเมืองต่างๆ และคนเข้าเมืองกลุ่มใหญ่ที่สุด คือคนจากประเทศละตินอเมริกา ซึ่งมีจำนวนเกือบ 20 ล้านคน ตามด้วยคนจากเอเชีย ซึ่งมีราว 10 ล้านคน คนอพยพเชื้อสายละตินอเมริกาซึ่งพูดภาษาสเปนรุ่นใหม่นี้ มักไปตั้งหลักแหล่งอยู่ตามเมืองเล็กๆ ซึ่งเมื่อก่อนไม่ค่อยมีคนเชื้อสายละตินอเมริกาไปอยู่
ศาสตราจารย์ Marcelo Suarez-Orozco แห่งสถาบัน Immigration Studies ที่มหาวิทยาลัย New York กล่าวว่า ผลการสำรวจนี้เป็นสิ่งบ่งชี้ว่า คนอพยพเข้าสหรัฐรุ่นใหม่รวมตัวกลมกลืนเข้าสู่สังคมอเมริกันอย่างหยั่งรากลึกมากขึ้นทุกหนแห่ง แม้เรื่องนี้จะเป็นข่าวดีตอนนี้ แต่เขาเตือนว่า อาจมีปัญหารออยู่ข้างหน้า เขายกตัวอย่าง การที่เยาวชนเชื้อสาย Hispanic หรือเชื้อสายละตินอเมริกาที่พูดภาษาสเปนประสบความสำเร็จในการศึกษาค่อนข้างต่ำ ซึ่งบ่งชี้ว่า คนเหล่านี้จะไม่มีเครื่องมือในการก้าวหน้าสู่ความสำเร็จในงานอาชีพที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถสูงในเศรษฐกิจใหม่ เขาเห็นว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะคาดว่า คนเชื้อสายละตินอเมริกาจะมีส่วนมากกว่า 80 % ของประชากรที่จะเพิ่มขึ้นในสหรัฐในอนาคต