เมื่อวันอังคาร ดร. โรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ เตือนว่า ชาวอเมริกันที่ยังไม่ฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันแรงงานของสหรัฐฯ ในช่วงวันที่ 4-6 กันยายนนี้ เนื่องจากการระบาดของไวรัสและยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่พุ่งสูงขึ้น
ทั้งนี้ สหรัฐฯ มียอดผู้ติดเชื้อใหม่โดยเฉลี่ยกว่า 100,000 คนต่อวัน โดยในรัฐฟลอริดา รัฐมิสซิสซิปปี และรัฐวอชิงตัน มียอดผู้ติดเชื้อและยอดผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสูงเป็นสถิติใหม่
ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สองรายผู้รับผิดชอบด้านการตรวจสอบวัคซีนของสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐฯ หรือ FDA กำลังจะออกจากตำแหน่งในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้ โดยเจ้าหน้าที่ทั้งสองรายได้แก่ ดร. มารีออน กรูเบอร์ ผู้อำนวยการด้านการตรวจสอบวัคซีน จะเกษียณในเดือนหน้า ในขณะที่ ดร. ฟิลิป เคราส์ รองผู้อำนวยการ จะออกจากตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายน
การประกาศเกษียณของบุคลากรทั้งสองมีขึ้นในขณะที่ FDA กำลังจะต้องตัดสินใจว่า จะแนะนำให้เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 และจะแนะนำให้มีการฉีดวัคซีนเข็มที่สามหรือไม่
สื่อเดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ รายงานว่า ดร. กรูเบอร์ และ ดร. เคราส์ ไม่พอใจที่รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศว่าจะเริ่มฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ให้ชาวอเมริกันเดือนหน้า ก่อนที่ทาง FDA จะมีเวลาทบทวนข้อมูลอย่างถี่ถ้วน
รัฐวิคตอเรียของออสเตรเลีย เตรียมผ่อนคลายมาตรการโควิด
นายแดเนียล แอนดรูวส์ มุขมนตรีรัฐวิคตอเรียของออสเตรเลีย ระบุว่า ทางการรัฐวิคตอเรียจะค่อยๆ ผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 หากประชากรวัยผู้ใหญ่ในรัฐ 70 เปอร์เซ็นต์ ฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 อย่างน้อยหนึ่งโดส
ทั้งนี้ รัฐวิคตอเรียและนครเมิลเบิร์น ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐ มีการใช้มาตรการล็อคดาวน์อย่างเข้มข้นมาตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมหลังมีการระบาดในเดือนมิถุนายน อย่างไรก็ตาม นายแอนดรูวส์ระบุว่า ขณะนี้จะต้องใช้การระดมฉีดวัคซีนเป็นอีกวิธีที่จะควบคุมการระบาดให้ได้
มุขมนตรีรัฐวิคตอเรียคาดว่า ทางรัฐน่าจะมียอดผู้ฉีดวัคซีนสูงถึง 70 เปอร์เซ็นต์ภายในวันที่ 23 กันยายน โดยเมื่อวันพุธ รัฐวิคตอเรียมีผู้ติดเชื้อใหม่ 120 คน รวมถึงผู้เสียชีวิตสองคน
(ข้อมูลบางส่วนจากสำนักข่าว The Associated Press, สำนักข่าว Reuters และสำนักข่าว AFP)