ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐฯ ออกคำสั่งกำหนดให้ผู้เดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะส่วนใหญ่ต้องสวมหน้ากาก โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่เวลา 23:59 น. ของคืนวันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป
โดยคำสั่งของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐฯหรือ CDC กำหนดให้ผู้เดินทางในสหรัฐฯ ทุกคนต้องสวมหน้ากากขณะที่อยู่ในพาหนะขนส่งสาธารณะ เช่น เครื่องบิน เรือ รถไฟ รถใต้ดิน รถโดยสาร รถแท็กซี่ และรถรับส่งผู้โดยสารอื่นๆ รวมทั้งขณะที่อยู่ที่ศูนย์คมนาคมไม่ว่าจะเป็นที่สนามบิน ท่ารถ ท่าเรือ หรือสถานีรถไฟ เป็นต้น
คำสั่งของ CDC นี้ดูจะเป็นการพลิกกลับบทบาทของหน่วยงานด้านสาธารณสุขที่สำคัญของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เพราะในช่วงของประธานาธิบดีทรัมป์นั้น CDC เคยพยายามผลักดันให้มีข้อกำหนดเรื่องการสวมหน้ากากระหว่างการเดินทางมาก่อนแล้วแต่ความพยายามเรื่องนี้ได้ถูกยับยั้ง ดังนั้น CDC จึงทำได้เพียงแค่ออกคำแนะนำให้ทุกคนสวมหน้ากากระหว่างการเดินทางเท่านั้น
ขณะนี้ถึงแม้สายการบินและระบบขนส่งสาธารณะส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ จะกำหนดให้ผู้ใช้บริการต้องสวมหน้ากากแล้วก็ตาม แต่คำสั่งของ CDC เรื่องนี้จะมีผลในทางกฎหมาย โดยผู้ที่ฝ่าฝืนอาจถูกลงโทษอาญาตามกฏหมายของรัฐบาลกลางหรืออาจถูกลงโทษด้วยวิธีปรับทางแพ่งก็ได้ คำสั่งซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 23:59 น. ของคืนวันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ตามเวลาในสหรัฐฯ ระบุว่าผู้โดยสารทุกคนในยานพาหนะขนส่งสาธารณะจะต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา ยกเว้นเฉพาะเวลาที่ทานอาหาร ดื่มน้ำ หรือทานยา และข้อยกเว้นจะมีขึ้นได้สำหรับเด็กอายุต่ำกว่าสองขวบกับผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพบางอย่าง ซึ่งหน้ากากที่ว่านี้อาจจะเป็นหน้ากากที่ทำขึ้นเองหรือหน้ากากซึ่งผลิตเพื่อการพาณิชย์ก็ได้
ก่อนหน้านี้อุตสาหกรรมการบินของสหรัฐฯ ได้แจ้งต่อประธานาธิบดีไบเดนว่าเนื่องจากมีผู้โดยสารบางคนไม่ยอมปฏิบัติตามนโยบายการสวมหน้ากาก สายการบินจึงต้องระบุห้ามผู้โดยสารหลายพันคนไม่ให้เดินทางด้วยเครื่องบิน และในสัปดาห์นี้ ศนย์ CDC กำลังเร่งพิจารณาว่าควรจะออกข้อกำหนดให้ผู้เดินทางโดยเครื่องบินภายในประเทศต้องแสดงผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นลบหรือไม่
เมื่อปลายเดือนมกราคมรัฐบาลสหรัฐฯ ได้กำหนดให้ผู้เดินทางระหว่างประเทศที่จะเข้าไปในสหรัฐฯ ต้องแสดงผลตรวจเชื้อโควิด-19 ที่เป็นลบก่อนจะได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่องบินไปแล้ว อย่างไรก็ตามกลุ่มอุตสาหกรรมการบินของสหรัฐฯ ดูจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับนโยบายที่จะกำหนดให้ผู้เดินทางในประเทศต้องแสดงผลตรวจโควิด-19 ซึ่งเป็นลบ
ในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ นั้นบันทึกลงวันที่ 24 มกราคมจากทำเนียบขาวระบุให้การเดินทางในประเทศสำหรับเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางจะทำได้เฉพาะในกรณีที่เป็นภารกิจสำคัญยิ่งยวดเท่านั้น นอกจากนี้ ทำเนียบขาวยังกำหนดให้การเข้าใช้พื้นที่อาคารสำนักงานของรัฐบาลกลางสามารถจะทำได้ไม่เกินความจุ 25% ในช่วงเวลาที่ยังมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างแพร่หลายอยู่ในชุมชนขณะนี้