ในวันศุกร์ตามเวลาในสหรัฐฯ โรเชล วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) เรียกร้องให้ผู้ปกครองเร่งนำบุตรหลานวัยเด็กและวัยรุ่นให้เข้ารับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 หลังผลการศึกษาล่าสุดของ CDC ระบุว่า มีผู้ป่วยวัยเยาว์เข้ารับการรักษาโรคโรคโควิด-19 ในโรงพยาบาลมากขึ้น
ผลการศึกษาดังกล่าวระบุว่า จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯ วัย 12-17 ปี เพิ่มสูงขึ้นในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายนปีนี้ โดยผู้ป่วย 1 ใน 3 เข้ารับการรักษาในแผนกผู้ป่วยวิกฤติ และผู้ป่วยจำนวนร้อยละ5 ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แม้ว่าจะไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตก็ตาม
วาเลนสกี ระบุในแถลงการณ์ว่า เธอรู้สึกเสียใจกับจำนวนผู้ป่วยดังกล่าว ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เชื้อโคโรนาไวรัสทำให้เกิดอาการรุนแรงได้แม้ผู้ติดเชื้อจะมีอายุน้อย โดยผลการศึกษาดังกล่าวน่าจะช่วยกระตุ้นให้วัยรุ่นเข้ารับการฉีดวัคซีนมากขึ้น
ผู้อำนวยการ CDC เตือนด้วยว่า ทั้งผู้ปกครอง ญาติ และเพื่อนสนิทควรช่วยกันพูดคุยกับกลุ่มวัยรุ่นเกี่ยวกับความสำคัญของยุทธศาสตร์ป้องกันการระบาดและเชิญชวนให้พวกเขาเข้ารับวัคซีน
ผลการศึกษาฉบับนี้ระบุว่า อัตราการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่เพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มวัยรุ่น อาจเกี่ยวข้องกับการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสที่กลายพันธ์ การที่เด็กๆ กลับเข้าเรียนในโรงเรียนหรือเข้าร่วมกิจกรรมในร่มมากขึ้น และการเปลี่ยนกฎการรักษาระยะห่างทางสังคมและกฎการใส่หน้ากาก
เมื่อเดือนที่แล้ว องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) อนุมัติให้ใข้วัคซีนต้านโควิด-19 ของไฟเซอร์ ในกลุ่มวัยรุ่นได้ โดยระบุว่า วัคซีนสูตรนี้ปลอดภัยและได้ผลต่อการป้องกันโรคและการเข้ารักษาโรงพยาบาลในกลุ่มวัยรุ่น