เครื่องบินโบอิ้ง 707 ของกองทัพอิหร่าน อายุหลายสิบปี ตกทางฝั่งตะวันตกของกรุงเทหะรานขณะกำลังจอด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย และมีผู้รอดชีวิต 1 ราย
รายงานระบุว่า เครื่องบินลำดังกล่าวขนส่งสินค้าเนื้อสัตว์มาจากทาจีกีสถานในวันจันทร์ และเปิดเหตุขัดข้องจนต้องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินฟาธ (Fath) ที่ดูแลโดยกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติของอิหร่าน ก่อนที่จะไถลออกนอกรันเวย์และพุ่งชนรั้วกั้นจนทะลุไปชนบ้านเรือนผู้คนในบริเวณนั้น ทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้หลายจุด
เจ้าหน้าที่อิหร่านเปิดเผยว่า มีผู้โดยสารบนเครื่องบินรวม 16 คน ซึ่งสามารถรอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้ได้เพียงคนเดียว คือวิศวกรประจำเครื่องบิน
ถือเป็นโศกนาฏกรรมทางอากาศครั้งล่าสุดของอิหร่าน ซึ่งกำลังเกิดปัญหาเครื่องบินเก่าแก่ ซึ่งทางการอิหร่านต้องการเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดภายใต้สนธิสัญญาด้านนิวเคลียร์ที่ทำไว้กับประเทศตะวันตกเมื่อปี ค.ศ. 2015 แต่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ถอนสหรัฐฯ ออกจากสนธิสัญญาดังกล่าว ซึ่งส่งผลกระทบต่อข้อตกลงซื้อเครื่องบินระหว่างอิหร่านกับบริษัทโบอิ้งและบริษัทแอร์บัสด้วย