ผู้เชี่ยวชาญมะเร็งชี้ว่า โอกาสที่ผู้ป่วยมะเร็งเลือดและมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจะหายขาดจากโรคมักมีน้อย แม้จะผ่านวิธีรักษาด้วยเคมีบำบัดแล้วก็ตาม และบ่อยครั้งที่มะเร็งหวนคืนและผู้ป่วยมักเสียชีวิตไม่นานหลังจากนั้น
ทีมนักวิจัยอเมริกันทำการตกแต่งเซลล์ในระบบภูมิต้านทานร่างกายผู้ป่วยเพื่อใช้เป็นตัวกำจัดเซลล์มะเร็งร้าย และพวกเขาประสบความสำเร็จที่น่าพอใจอย่างมากในการทดลองรักษาทางคลินิกในผู้ป่วยมะเร็งกลุ่มเล็กๆ หลายกลุ่ม
ทีมนักวิจัยนี้นำโดยคุณสเเตนลี่ย์ ริดเดล นักวิจัยที่ศูนย์วิจัยมะเร็งเฟร็ด ฮัทชินสัน (Fred Hutchinson Cancer Research Center) ในรัฐวอชิงตัน
ในการทดลองบำบัดหนหนึ่งที่มีผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดลิมโฟบลาสติก (acute lymphoblastic leukemia) หรือ ALL จำนวน 35 คนเข้าร่วม ทีมนักวิจัยชี้ว่าหลังการบำบัด ผู้ป่วย 94 เปอร์เซ็นต์มะเร็งเข้าสู่ช่วงสงบ และ 50-80 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเลือดชนิดอื่นๆ รวมทั้ง non-Hodgkin’s lymphoma ก็เริ่มมีอาการป่วยตามอาการของโรคลดน้อยลง
คุณริดเดลกล่าวว่า ผลการทดลองบำบัดนี้น่าพอใจเป็นอย่างมาก เพราะผู้ป่วยมะเร็งเหล่านี้ทั้งหมดเข้ารับการรักษาด้วยวิธีบำบัดที่มีอยู่ในปัจจุบันมาหมดแล้วแต่ไม่ได้ผล ไม่ว่าจะเป็นการบำบัดด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูกและเซลล์ตั้งต้นหรือสเต็มเซลล์ ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวเหล่านี้จึงไม่มีทางเลือกของการรักษาให้มะเร็งเข้าสู่ช่วงสงบ
หัวหน้าทีมนักวิจัยกล่าวว่าผลการทดลองรักษาที่ช่วยให้มะเร็งเข้าสู่ช่วงสงบในผู้ป่วยจำนวนมากแบบนี้จึงสร้างความตื่นเต้นแก่ทีมงานเป็นอย่างมาก
ทีเซลล์ในระบบภูมิต้านทางในร่างกาย ปกติจะทำหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัสหรือเชื้อเเบคทีเรีย ทีเซลล์ยังสามารถต่อสู้กับเซลล์มะเร็งได้ด้วย แต่มักจะต่อสู้ไม่ไหวเพราะมะเร็งในร่างกายผู้ป่วยเพิ่มความรุนแรงของโรคมากขึ้น
งานวิจัยของทีมผู้เชี่ยวชาญที่ศูนย์วิจัยมะเร็งเฟร็ดฮัทชินสันนี้ มุ่งพัฒนาให้ระบบภูมิต้านทานในร่างกายตามธรรมชาติสามารถต่อสู้กับมะเร็งได้ดีขึ้น โดยคุณริดเดลกับทีมงานทำการตกแต่งตัวทีเซลล์ในระบบภูมิต้านทานร่างกายของผู้ป่วย ให้สามารถจดจำเซลล์มะเร็งร้ายและกำจัดเซลล์มะเร็งดังกล่าว
ในกรณีของผู้ป่วยมะเร็งเลือดหลายชนิด ตัวทีเซลล์จะตกเป็นเป้าหมายโจมตีของ บีเซลล์ ซึ่งเป็นเซลล์ในภูมิต้านทานอีกตัวหนึ่งแต่ทำงานผิดปกติ
และในการทดลองรักษาผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวหลายชนิด ทีมงานนำตัวทีเซลล์ของผู้ป่วยออกมาตกแต่ง ก่อนจะนำกลับไปถ่ายคืนสู่ร่างกายผู้ป่วยอีกครั้งเพื่อให้แตกตัวเพิ่มจำนวนและทำหน้าที่ต่อต้านมะเร็ง
คุณริดเดลกล่าวว่า การบำบัดด้วยทีเซลล์ตกแต่งนี้น่าสนใจตรงที่ไม่จำเป็นต้องบำบัดซ้ำหลายครั้งอย่างการบำบัดมะเร็งในปัจจุบันและเคมีบำบัด ตนเองคิดว่านี่จะมีความสำคัญกับผู้ป่วยในอนาคต เพราะจะเป็นการบำบัดแค่หนเดียวแทนการบำบัดที่นานหลายเดือน
การทดลองบำบัดด้วยทีเซลล์ตกแต่งได้แสดงผลที่น่าพอใจแล้วในการบำบัดมะเร็งผิวหนังชนิดร้ายแรงชนิด melanoma และมะเร็งปอดบางชนิด แต่ในขณะนี้ การบำบัดมะเร็งด้วยระบบภูมิต้านทานตกแต่งยังถือเป็นการรักษาทางเลือกสุดท้ายสำหรับผู้ป่วยมะเร็งชนิดอื่นๆ
อย่างไรก็ดี คุณริดเดลคิดว่าข้อจำกัดดังกล่าวอาจจะปรับเปลี่ยนในอนาคต เขากล่าวว่ายังมีงานที่ต้องทำอีกมาก เพื่อระบุว่าการบำบัดด้วยระบบภูมิต้านทานตกแต่งนี้ควรใช้รักษามะเร็งชนิดใดบ้าง แต่มาถึงตอนนี้ ก็หมดข้อสงสัยกันแล้วถึงประสิทธิผลของการบำบัดด้วยวิธีนี้ เพราะในบางกรณีสามารถใช้แทนเคมีบำบัดได้และได้ผลดีกว่าเคมีบำบัด
คุณริดเดลและทีมงานได้นำเสนอผลงานการทดลองบำบัดมะเร็งด้วยเซลล์ภูมิต้านทานร่างกายตกแต่งนี้ ที่การประชุมประจำปีของสมาคม American Association for the Advancement of Science เมื่อไม่นานมานี้
(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)
