การเจรจา “Brexit” ไม่คืบ
ที่อังกฤษ รัฐมนตรีที่ดูแลการแยกตัวของอังกฤษจากสหภาพยุโรปหรือ Brexit นาย David Davis เมื่อวันอาทิตย์ได้เรียกร้องให้สหภาพยุโรป ผ่อนปรนจุดยืนของอียูลงที่ต้องการให้ทั้งสองฝ่าย คือ ฝ่ายอังกฤษและฝ่ายอียู มีความคืบหน้าในข้อตกลงเกี่ยวกับการแยกตัว ก่อนหน้าที่จะพูดคุยกันถึงความสัมพันธ์ในอนาคต
นายเดวิส กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้ รัฐบาลอังกฤษจะออกข้อเสนอต่างๆ ที่เกี่ยวกับการสร้างสัมพันธ์ในอนาคตระหว่างอังกฤษกับอียู ซึ่งรวมถึงการแก้ปัญหาขัดแย้งในอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ของอียูได้เน้นมาตลาดว่าทั้งสองฝ่ายจะต้องมีความคืบหน้าที่ชัดเจน ในขั้นแรกของการเจรจากันเพื่อตกลงกันให้ได้ในรายละเอียดของสิทธิ์ต่างๆของชาวอังกฤษที่อาศัยในประเทศสมาชิกอียูและชาวต่างประเทศจากชาติอียูที่อาศัยในอังกฤษ ตลอดจนเกี่ยวกับชายแดนระหว่างอังกฤษกับประเทศไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นสมาชิกอียู ตลอดจนข้อตกลงกันทางการเงินก่อนที่จะเดินหน้าการเจรจาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในอนาคต
ทางเจ้าหน้าที่ของอียูกล่าวว่าจำเป็นต้องมีการรับประกันสิทธิ์ของคนจากชาติอียูที่อาศัยในอังกฤษหรือทำงานในอังกฤษหลัง Brexit
ความน่าเชื่อถือทางการเงินของกรีซกระเตื้องเล็กน้อย
ที่ กรีซ บริษัท Fitch Ratings เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ได้ปรับความน่าเชื่อถือทางการเงินของกรีซขึ้นมาเล็กน้อย จาก ระดับ CCC ไปอยู่ที่ระดับ B+ ซึ่งแม้จะเป็นระดับที่ดีขึ้นแต่ก็ยังทำให้พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกรีซ ที่ยังตกอยู่ในวิฤติทางเศรษฐกิจ ยังอยู่ต่ำกว่าระดับที่น่าลงทุน
บริษัทจัดอันดับความเชื่อถือทางการเงินแห่งนี้ชี้ว่าการคาดการณ์ด้านเศรษฐกิจในอนาคตของกรีซ ค่อนข้างดีและทางบริษัทคาดว่าการเจรจาต่างๆ ระหว่างกรีซกับผู้ให้กู้ระดับนานาชาติ น่าจะได้ผลที่น่าพอใจ โดยไม่สร้างความไม่มั่นคงทางการเงินแก่ประเทศ
แถลงการณ์ของบริษัท Fitch Ratings กล่าวเสริมว่าประเทศยุโรปชาติอื่นๆ ที่ใช้เงินยูโร น่าจะให้เงินกู้จำนวนมากพอสมควรเพื่อช่วยเหลือทางการเงินแก่กรีซ ในปีหน้า ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นทางการตลาดและช่วยกรีซพึ่งตนเองได้ทางการเงินโดยตรง ด้วยการออกพันธบัตรรัฐบาลหลังจากโครงการช่วยเหลือจะจบลงในปลายปีนี้
นักลงทุนลาตินอเมริกาตื่นเต้นกับการเยือนของ “เพ็นส์”
ที่สหรัฐฯ บรรดานักลงทุนระหว่างชาติในลาตินอเมริกา หวังกันว่า การเดินทางไปเยือนลาตินอเมริกาของรองประธานาธิบดีไมค์ เพ็นส แห่งสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อส่งเสริมความมั่งคั่ง ความมั่นคงและประชาธิปไตยในภูมิภาค จะมีผลช่วยกระตุ้นความมั่นใจแก่นักธุกริจท้องถิ่นให้เกิดความกระตือรืนร้นทางลงทุน การประกอบการ และการตั้งบริษัท startups ใหม่ๆขึ้นในประเทศลาตินอเมริกา
เท่าที่ผ่านมา ชาวละตินอเมริกา ยังขาดความมั่นใจว่าจะสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ แต่นักวิเคราะห์หลายคนบอกว่าการเดินทางไปเยือนลาตินอเมริกาของนายเพ็นส์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯนี้น่าจะช่วยย้ำให้คนเห็นถึงผลประโยชน์ของการค้าระหว่างประเทศและการแข่งขัน
นายเพ็นส์ กล่าวที่งานเลี้ยงอาหารค่ำนักธุรกิจที่ซานติอาโก้เมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า การค้าระหว่างสหรัฐฯ กับลาตินอเมริกามีมูลค่ารวมสูงมากที่ 1.6 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐเมื่อปีที่แล้วและกล่าวว่าสหรัฐฯ ต้องการเห็นมูลค่าการค้านี้เพิ่มขึ้นไปอีกและชี้ว่าสหรัฐฯ ต้องการนำวัฒนธรรมการทำธุรกิจ การลงทุนและการสร้างนวัตกรรมมาสู่ลาตินอเมริกา
Liliana Valleta ชาวโคลัมเบียที่ได้สัญชาติอเมริกันซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทการตลาดในนิวยอร์กกล่าวว่าการเดินทางไปเยือนลาตินอเมริกาของนายเพ็นส์เป็นข่าวดีและช่วยส่งเสริมการค้าทวิภาคี
ในปีค.ศ. 2010 รัฐบาลประเทศชิลีได้เริ่มต้นโครงการส่งเสริมการทำธุรกิจแนวบริษัท startups เพื่อส่งเสริมนักธุรกิจและพัฒนาประเทศให้กลายเป็นศูนย์กลางของนวัตกรรมทางเทคโนโลยี
Valleta กล่าวว่าสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การทำธุรกิจควรมีความพร้อมด้านทรัยพ ากรบุคคลที่มีความสามารถ พี่เลี้ยงที่มีความเชี่ยวชาญและนักลงทุนที่เต็มใจที่จะลงทุน เธอกล่าวว่าชาวต่างชาติย้ายถิ่นฐานเป็นแหล่งหนึ่งของทรัพยากรที่มีความสามารถ Valleta กล่าวว่าตนเองเป็นผู้แรงงานย้ายถิ่นจากโคลัมเบียที่ เดินทางมายังสหรัฐฯ เมื่ออายุ 17 ปี ด้วยกระเป๋าเดินทางติดตัวมาเพียงใบเดียว มีวีซ่านักเรียนและยังพูดภาษาอังกฤษไม่ได้แม้แต่คำเดียว
สุริยคราสเต็มดวงกับผลกระทบต่อผลผลิตทางเศรษฐกิจในสหรัฐฯ
ในสหรัฐฯ เกิดความตื่นเต้นและฮือฮาต่อการเกิดสุริยคราสเต็มดวง เหตุการณ์ทางธรรมชาติที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นวันทำงานปกติของที่นี่
บริษัท Challenger, Gray & Christmas ประมาณว่าปรากฏการณ์ธรรมชาตินี้จะก่อให้เกิดการสูญเสียผลผลิตทางเศรษฐกิจเป็นระยะเวลานานรวม 20 นาที ซึ่งคิดเป็นมูลค่าตัวเงินอย่างน้อย 694 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯเพราะคนงานในสหรัฐฯอาจจะแว็บออกจากที่ทำงานเพื่อไปดูสุริยคราสเต็มดวงที่จะกินเวลานานทั้งหมดราว 2 นาทีครึ่ง
Andy Challengers แห่งบริษัทแห่งนี้ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่ชิคาโก้ กล่าวว่าการสูญเสียผลผลิตทางเศรษฐกิจนาน 20 นาทีเป็นเพียงแค่ตัวเลขโดยประมาณเท่านั้น เขากล่าวว่าจะมีคนงานจำนวนมากที่จะใช้เวลานานกว่านั้นในการตระเตรียมอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นกล้องส่องดูดาวหรืออุปกรณ์พิเศษอื่นๆ หรือ บางคนอาจจะลางานไปทั้งวัน
Challengers กล่าวว่าจะมีคนทำงานในสหรัฐฯไม่มากนักที่จะยังนั่งทำงานต่อไปในขณะที่เกิดปรากฏการณ์นี้ โดยคาดว่าจะมีคนงานราว 87 ล้านคนยังอยู่ในที่ทำงานขณะเกิดสุริยคราสเต็มดวง
อย่างไรก็ตามเขากล่าวว่าสุริยคราสเต็มดวงจะกระทบต่อบริษัทขนาดเล็กรุนแรงกว่าบริษัทขนาดใหญ๋เพราะหากบริษัทขนาดเล็กมีคนงานขาดงาน สามถึงสี่คนในวันเดียวกัน ผลผลิตทางเศรษฐกิจก็จะลดลงอย่างเห็นได้ชัด
(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)