ผู้เชี่ยวชาญของ IMF กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกจะเติบโตในอัตรา 3.5% ในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าอัตราการโตของปีที่แล้วเล็กน้อย
นาย Olivier Blanchard นักเศรษฐศาสตร์ของ IMF กล่าวว่า เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐ จะโตในอัตราที่เร็วกว่าประเทศอื่นๆ เล็กน้อย ในขณะที่เศรษฐกิจเกิดใหม่จะขยายตัวในอัตราที่เชื่องช้ากว่า
นักเศรษฐศาสตร์ผู้นี้อธิบายว่า ภาพทางเศรษฐกิจค่อนข้างจะสลับซับซ้อน เนื่องเพราะราคาน้ำมันที่ยังคงลดลงอยู่ต่อไป การเปลี่ยนแปลงในอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ และภาระหนี้สินอย่างมากรวมทั้งปัญหาอื่นๆ ที่ตกค้างมาจากวิกฤติเศรษฐกิจปี ค.ศ. 2008
นักเศรษฐศาสตร์ของ IMF กล่าวต่อไปว่า ประเทศที่นำเข้าน้ำมันอย่างสหรัฐ ยุโรป จีน และอินเดีย จะเสียค่าใช้จ่ายสำหรับพลังงานน้อยลง ทำให้มีเงินใช้ในเรื่องอื่นๆ มากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตได้
ในขณะที่ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันต้องขายน้ำมันในราคาที่ถูกลง แต่ประเทศเหล่านี้มีเงินสำรองก้อนใหญ่ จึงไม่ต้องลดการใช้จ่ายมากนัก
เขากล่าวส่งท้ายว่า การส่งออกของสหรัฐอาจลดลง เพราะค่าเงินดอลลาร์แข็งตัวขึ้น ทำให้สินค้าของสหรัฐมีราคาแพง และอาจจำกัดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐได้
การประเมินเศรษฐกิจโลกดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่เจ้าหน้าที่ของประเทศสมาชิก IMF และธนาคารโลก กำลังชุมนุมกันอยู่ที่กรุงวอชิงตัน สำหรับการประชุมประจำฤดูใบไม้ผลิในสัปดาห์นี้