World Wildlife Fund หรือกองทุนสัตว์ป่าโลก เรียกร้องให้กลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นแหล่งใหญ่ของการลักลอบค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย ทำตามแนวทางปฎิบัติของจีนที่สั่งห้ามการค้าสัตว์ป่าและการบริโภคสัตว์ป่า หลังการระบาดของไวรัส COVID-19
โดยกองทุนสัตว์ป่าโลกยกย่องการตัดสินใจของรัฐบาลจีนที่ห้ามเรื่องนี้ แต่ก็ชี้ว่ายังไม่เพียงพอ เพราะประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย จำต้องเรียนรู้จากตัวอย่างของจีน และห้ามการค้าสัตว์ป่าเพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน รวมทั้งเพื่อป้องกันผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยส่วนรวมด้วย ดังตัวอย่างที่เห็นได้จากการระบาดของไวรัส COVID-19 นี้
คุณคริสตี้ วิลเลียม ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียแปซิฟิคของกองทุนสัตว์ป่าโลก ยกตัวอย่างว่า เท่าที่ผ่านมา เมื่อจีนห้ามการค้าชิ้นส่วนของสัตว์ป่าบางอย่าง เช่น งาช้าง การลักลอบค้าชิ้นส่วนที่ผิดกฎหมายดังกล่าวก็มักจะย้ายฐานไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แทน
ด้วยเหตุนี้กองทุนสัตว์ป่าโลกจึงเรียกร้องให้รัฐบาลของกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มมาตรการตรวจสอบตลาดค้าสัตว์ป่า รวมทั้งเร่งสร้างความตื่นตัวในหมู่สาธารณชนด้วย
เมื่อ 15 ปีที่แล้ว เวียดนามเคยมีหมีหลายหมื่นตัว แต่การค้าดีหมีในเวียดนามจากความเชื่อว่าดีหมีมีสรรพคุณในการรักษาโรค ทำให้หมีในเวียดนามลดลงเหลือไม่ถึงหนึ่งพันตัวในปัจจุบัน
และการแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ต่าง ๆ ในเอเชีย ตั้งแต่ไข้หวัดนก ไข้หวัดหมู จนถึง COVID-19 ในขณะนี้ ก็มักจะเริ่มจากการที่มนุษย์มีการติดต่อสัมผัสกับสัตว์ในลักษณะที่ไม่ปลอดภัยทั้งสิ้น