ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ธุรกิจ: ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ร่วงกว่า 300 จุด! เชื่อนักลงทุนขาดความมั่นใจในการเมืองอเมริกัน


Trader Daniel Leporin, right, works on the floor of the New York Stock Exchange, May 17, 2017.
Trader Daniel Leporin, right, works on the floor of the New York Stock Exchange, May 17, 2017.

หนี้ภาคครัวเรือนในสหรัฐฯ เพิ่มสูงสุดเป็นสถิติใหม่

please wait

No media source currently available

0:00 0:05:39 0:00

ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ร่วง 300 จุด เชื่อนักลงทุนขาดความมั่นใจในการเมืองอเมริกัน

ดัชนีหุ้นในสหรัฐฯ และค่าเงินดอลลาร์ ร่วงดิ่งลงในการซื้อขายในวันพุธ ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่าเป็นผลมาจากนักลงทุนขาดความมั่นใจในการเมืองอเมริกัน หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สั่งปลด ผอ. FBI นายเจมส์ โคมี่ย์ ออกจากตำแหน่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งข้อกล่าวหาว่าประธานาธิบดีทรัมป์กำลังพยายามสกัดกั้นการสืบสวนกรณีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และการที่ประธานาธิบดีทรัมป์แบ่งปันข้อมูลลับด้านความมั่นคงให้กับเจ้าหน้าที่ของรัสเซีย

นอกจากนี้ ความพยายามถอดถอนและแทนที่กฎหมายประกันสุขภาพ “โอบาม่าแคร์” ก็สั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนเช่นกัน

ก่อนหน้านี้ ดัชนีหุ้นในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นสถิติใหม่หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่ง และสัญญาว่าจะลดภาษีและกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

หนี้ภาคครัวเรือนในสหรัฐฯ เพิ่มสูงสุดเป็นสถิติใหม่

หนี้ภาคครัวเรือนของครอบครัวชาวอเมริกัน เพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูงที่สุดเป็นสถิติใหม่ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้

รายงานของระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ ชี้ว่า ในช่วงสามเดือนแรกของปี หนี้ภาคครัวเรือนในสหรัฐฯ อยู่ที่ระดับ 12,730,000 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าสถิติเดิมเมื่อปี ค.ศ. 2008 ราว 50,000 ล้านดอลลาร์ โดยหนี้เงินกู้เพื่อการศึกษาและเงินกู้ซื้อรถยนต์มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ขณะที่เงินกู้ซื้อบ้านและหนี้บัตรเครดิตยังคงอยู่ในสัดส่วนใกล้เคียงกับเมื่อปี 2008

อย่างไรก็ตาม หากเทียบหนี้ภาคครัวเรือนกับขนาดเศรษฐกิจทั้งหมดของสหรัฐฯ แล้ว พบว่าปัจจุบันมีสัดส่วนลดลงกว่าเมื่อ 9 ปีที่แล้ว คือลดลงมาอยู่ที่ 67% ของ GDP จากระดับ 85% เมื่อปี 2008

รายงานชิ้นนี้ยังบอกด้วยว่า มีคนอเมริกันยื่นฟ้องล้มละลาย 203,000 คนในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งเป็นจำนวนที่ต่ำที่สุดในรอบ 18 ปี

XS
SM
MD
LG