“ทรัมป์” ทุ่มสุดหน้าตักฟื้นธุรกิจเหล็กกล้าให้ชาวอเมริกัน
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กล่าวในการประชุมที่ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ว่า เขาต้องการผลักดันให้อุตสาหกรรมเหล็กกล้าในอเมริกากลับฟื้นคืนมาให้ได้ เพื่อสร้างงานสร้างอาชีพในอุตสาหกรรมดังกล่าวให้กับชาวอเมริกัน แม้ว่าจะต้องใช้มาตรการขึ้นกำแพงภาษีก็ตาม
ถ้อยแถลงของผู้นำสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ เสนอให้รัฐบาลบังคับใช้มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กกล้าและอลูมิเนียม ที่นำเข้าจากจีนและประเทศอื่นๆ
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯยังเหลือเวลาสำหรับการพิจารณามาตรการอื่นๆ จนถึงเดือนเมษายนนี้ แต่ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ราคาหุ้นของ Steel Corp และ AK Steel Holding ซึ่งเป็นธุรกิจเหล็กของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นทันทีหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ พูดถึงการตั้งกำแพงภาษีเหล็กกล้าเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กกล้าในประเทศ
ตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐฯร่วงหนักในรอบ 5 เดือน
ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ทั่วสหรัฐฯ ในเดือนมกราคมปีนี้ ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยมียอดขายบ้านใหม่ 593,000 หลัง ลดลงร้อยละ 7.8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมียอดขายต่ำที่สุดในรอบ 5 เดือน นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
ตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐฯที่ส่งสัญญาณชะลอตัว สวนทางกับจำนวนอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างขึ้นใหม่ที่เพิ่มขึ้น 301,000 หลัง ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นของอสังหาริมทรัพย์มากที่สุดในรอบ 9 ปี แต่ยังไม่ถึงระดับอุปทานส่วนเกิน Oversupply
ทาง Daniel Silver นักเศรษฐศาสตร์จาก JPMorgan ในนิวยอร์ก มองว่า ทิศทางของอัตราดอกเบี้ยที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต และราคาอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะบ้านในระดับกลางจนถึงล่างซึ่งเป็นที่ต้องการของผู้ซื้อบ้านหลังแรกที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก มีผลต่อการตัดสินใจซื้อและลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในช่วงนี้ จึงคาดว่าทิศทางของอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ จะยังตึงตัวต่อไปตลอดทั้งไตรมาสแรกของปีนี้
“วอร์เรน บัฟเฟต” เตรียมเปิดตัวซีอีโอบริษัทประกันร่วมทุนยักษ์ในปีหน้า
นายวอร์เรน บัฟเฟต แห่ง Berkshire Hathaway ประกาศแผนเปิดตัวผู้บริหารระดับสูงของบริษัทด้านสุขภาพที่เป็นการร่วมทุนของ 3 ยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon Berkshire Hathaway ของนายวอร์เรน บัฟเฟต และธนาคาร JPMorgan ภายในปีหน้า
นายบัฟเฟต ให้สัมภาษณ์ผ่าน CNBC ยืนยันว่าจะมีการประกาศชื่อซีอีโอของบริษัท พร้อมแผนเชิงรุกในการลดต้นทุนด้านสุขภาพของชาวอเมริกัน ที่ตอนนี้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเฉลี่ย 10,000 ดอลลาร์ หรือราว 3 แสนบาทต่อคน คิดเป็นร้อยละ 18 ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ของประเทศทีเดียว และสิ่งนี้ได้กระทบกับความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจอเมริกัน เมื่อเทียบกับประเทศอุตสาหกรรมอื่นๆ และเขามั่นใจว่าจะสามารถลดต้นทุนด้านสุขภาพราวร้อยละ 3-4 ได้ไม่ยาก
นี่ถือเป็นการสร้างแรงสั่นสะเทือนให้วงการสุขภาพของสหรัฐฯ หลังจาก 3 บริษัทประกาศร่วมทุน สร้างบริษัทบริการด้านสุขภาพที่ไม่แสวงผลกำไรสำหรับชาวอเมริกัน เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ราคาหุ้นของธุรกิจด้านสุขภาพต่างร่วงลงเป็นทิวแถว หวั่นกระทบกับผลกำไรจากอุตสาหกรรม