ลูกชายทรัมป์ จัด “มีตแอนด์กรี้ด” หวังกระตุ้นยอดขายคอนโดในอินเดีย
ภารกิจการเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการร่วมสัปดาห์ของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ บุตรชายของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐฯ ถูกจับตาอีกครั้ง เมื่อภาพของเขาปรากฏในโฆษณาบนหน้าหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น เพื่อลุ้นมีตแอนด์กรี้ดกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ หากเข้าไปจับของคอนโดหรูภายใต้แบรนด์ทรัมป์ก่อน 22 กุมภาพันธ์นี้
ในโฆษณาดังกล่าวเชิญชวนให้ชาวอินเดียเข้าไปจองคอนโดหรู 47 ชั้น จำนวน 250 ยูนิต ในเมืองกูรูกรัม ย่านธุรกิจชานกรุงนิวเดลี ซึ่งมีราคาห้องละ 1 ล้าน ถึง 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อพบปะพูดคุยและรับประทานอาหารเย็นกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์
ทั้งนี้ อินเดียเป็นตลาดต่างประเทศที่มีความสำคัญสำหรับทรัมป์ ออร์แกไนเซชั่น โดยสร้างรายได้ให้กับบริษัทราว 3 ล้านดอลลาร์เมื่อ 2 ปีก่อน แต่ The New York Times ชี้ว่าการเคลื่อนไหวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ทั้งในฐานะผู้บริหารทรัมป์ ออร์แกไนเซชั่น และบุตรชายประธานาธิบดีทรัมป์ในภารกิจเยือนอินเดียครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องที่ประหลาดภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกโจมตีในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน
จับเพิ่ม 3 พนักงานแบงค์อินเดียเอี่ยวมหาเศรษฐีอัญมณีฉาว
รัฐบาลอินเดียจับกุมพนักงานธนาคาร Punjab National Bank ที่รัฐบาลอินเดียเป็นเจ้าของเพิ่มอีก 3 ราย หลังพบความเชื่อมโยงกับคดีฉ้อโกงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อินเดีย โดยการจับกุมล่าสุด เป็นผู้จัดการธนาคารฝ่ายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 2 คน และเจ้าหน้าที่ธนาคารอีก 1 คน
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอินเดียได้จับกุมพนักงานธนาคารไปแล้ว 3 คนที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยสินเชื่ออย่างผิดกฏหมาย คิดเป็นมูลค่า 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 55,800 ล้านบาทให้กับนายนิราฟ โมดี (Nirav Modi) เจ้าของธุรกิจ Firestone Diamond ร้านขายอัญมณีรายใหญ่ที่มีสาขาทั่วโลก ซึ่งถือเป็นการทำธุรกรรมผิดกฏหมายกับธนาคารของรัฐ และนำไปสู่ประเด็นคำถามถึงความเท่าเทียมให้การปล่อยสินเชื่อของธนาคารแดนภารตะ
นายนิราฟ โมดี ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 85 ของอินเดีย ด้วยมูลค่าทรัพย์สินราว 1,740 ล้านดอลลาร์ จากแบรนด์อัญมณี Firestone Diamond ที่มีดาราฮอลลีวู้ดหลายคนสวมใส่ เช่น ดาโกต้า จอห์นสัน (Dakota Johnson) และ เคต วินสเล็ต (Kate Winslet)
อียิปต์-อิสราเอล บรรลุข้อตกลงซื้อขายก๊าซธรรมชาติ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์
บริษัทเอกชนอียิปต์ Dolphinus Holdings ลงนามข้อตกลงมูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 465,000 ล้านบาท กับบริษัท Delek Group จากอิสราเอล และ Noble Energy ของสหรัฐฯ ในการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากอิสราเอล 64,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ในระยะเวลา 10 ปี
ด้านนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ออกมาระบุว่า ข้อตกลงฉบับนี้จะเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลและอียิปต์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ขณะที่ฝั่งรัฐบาลอียิปต์ ยืนยันว่าข้อตกลงดังกล่าวไม่กระทบกับนโยบายด้านพลังงานของประเทศ เพราะเป็นการจัดทำข้อตกลงระหว่างภาคเอกชนของสองชาติ
ที่ผ่านมา อียิปต์เคยส่งออกก๊าซธรรมชาติให้กับอิสราเอล ก่อนที่จะถูกยกเลิกไปเมื่อปี 2555 จากเหตุความรุนแรงบนคาบสมุทรไซนายที่ยืดเยื้อมานานหลายเดือนในช่วงนั้น
