รายงานของสหประชาชาติที่เพิ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อเร็วๆนี้ กล่าวว่า การจับยาบ้า (amphetamine) ทั่วโลกในปีที่แล้ว เพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเกี่ยวโยงกับความต้องการและอุปทานสำหรับยาเสพติดที่เพิ่มขึ้นในเอเชียตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้
ในขณะที่การค้าในหมู่ชาติภาคีอาเซียนเพิ่มขึ้น เพราะมีการลดภาษีและกำแพงกีดขวางการค้าลง การค้ายาเสพติดก็เพิ่มขึ้นไปด้วย
รายงานของสหประชาชาติเรื่องการค้ายาเสพติดสังเคราะห์ที่เพิ่งเผยแพร่ออกมา ชี้ว่า เฉพาะในประเทศไทยการจับยึดยาบ้าเพิ่มขึ้นสี่เท่าตัวจากปี ค.ศ. 2008
คุณสุชีพ คชรินทร์ ผู้อำนวยการภาค 5 ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด บอกกับผู้สื่อข่าวของ Voice of America ว่า “ประเทศไทยก็กังวลเรื่องนี้พอสมควรว่า พอหลังที่เราเปิดประเทศ เปิดชายแดน ได้มีการเคลื่อนย้ายแรงงาน มีการเคลื่อนย้ายทางธุรกิจ ทางอาชีพ ก็เป็นไปได้ที่ว่า การหลั่งไหลของยาเสพติด จะทะลักหรือผ่านไปสู่ประเทศต่างๆในประชาคม ASEAN”
การค้ายาเสพติดในบริเวณสามเหลี่ยมทองคำมีมานานนับสิบๆปี บริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งชนเผ่าของพม่า และการรักษากฎหมายทำได้ยากลำบากยิ่ง
นักวิเคราะห์อย่างคุณ Bertil Lintner บอกว่า การที่ปริมาณยาเสพติดมากขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรัฐบาลพม่ากำลังพยายามจะเข้าไปควบคุม
นักวิเคราะห์ผู้นี้บอกว่า นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2011 เป็นต้นมา รัฐบาลพม่าได้พยายามโน้มน้าวชักจูงกลุ่มกบฎหลายกลุ่ม ให้กลับเข้าสู่กรอบกฎหมาย เนื้อแท้ก็เพื่อจะปลดสภาพคุกคามจากกลุ่มเหล่านี้ต่อรัฐบาลกลาง แต่จะทำเช่นนั้นได้ รัฐบาลจะต้องมีอะไรให้เป็นการแลกเปลี่ยน
ทางการพม่าหวังว่า การเปิดให้มีการค้าในบริเวณชนเผ่าจะช่วยเพิ่มโอกาสการสร้างงาน แต่ยังไม่เป็นไปตามความหวังในขณะนี้
คุณ Kuensai Jaiyen ผู้ก่อตั้งสำนักข่าว Shan Herald ซึ่งอพยพออกจากพม่ามาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1996 บอกว่า วิธีเดียวที่จะลดการผลิตยาเสพติดในบริเวณนี้ได้คือยุติความขัดแย้งและสร้างงานขึ้น
คุณ Kuensai Jaiyen ของสำนักข่าว Shan Herald บอกว่าความท้าทายคือจะต้องมีสันติภาพและหลักนิติธรรมก่อนอื่น จะมีสันติภาพได้ก็ต้องมีการทำความตกลงทางการเมือง แต่จะต้องยอมรับด้วยว่า สันติภาพนั้นต้องไม่มาจากการบีบบังคับ
และในขณะที่รัฐบาลพม่ากำลังเจรจาหาทางออกอยู่กับบรรดาชนเผ่า พม่าและประเทศเพื่อนบ้านก็กำลังประสบปัญหาเรื่องการค้ายาเสพติดสังเคราะห์ที่เพิ่มมากขึ้นทุกที
ในขณะที่การค้าในหมู่ชาติภาคีอาเซียนเพิ่มขึ้น เพราะมีการลดภาษีและกำแพงกีดขวางการค้าลง การค้ายาเสพติดก็เพิ่มขึ้นไปด้วย
รายงานของสหประชาชาติเรื่องการค้ายาเสพติดสังเคราะห์ที่เพิ่งเผยแพร่ออกมา ชี้ว่า เฉพาะในประเทศไทยการจับยึดยาบ้าเพิ่มขึ้นสี่เท่าตัวจากปี ค.ศ. 2008
คุณสุชีพ คชรินทร์ ผู้อำนวยการภาค 5 ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด บอกกับผู้สื่อข่าวของ Voice of America ว่า “ประเทศไทยก็กังวลเรื่องนี้พอสมควรว่า พอหลังที่เราเปิดประเทศ เปิดชายแดน ได้มีการเคลื่อนย้ายแรงงาน มีการเคลื่อนย้ายทางธุรกิจ ทางอาชีพ ก็เป็นไปได้ที่ว่า การหลั่งไหลของยาเสพติด จะทะลักหรือผ่านไปสู่ประเทศต่างๆในประชาคม ASEAN”
การค้ายาเสพติดในบริเวณสามเหลี่ยมทองคำมีมานานนับสิบๆปี บริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งชนเผ่าของพม่า และการรักษากฎหมายทำได้ยากลำบากยิ่ง
นักวิเคราะห์อย่างคุณ Bertil Lintner บอกว่า การที่ปริมาณยาเสพติดมากขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรัฐบาลพม่ากำลังพยายามจะเข้าไปควบคุม
นักวิเคราะห์ผู้นี้บอกว่า นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2011 เป็นต้นมา รัฐบาลพม่าได้พยายามโน้มน้าวชักจูงกลุ่มกบฎหลายกลุ่ม ให้กลับเข้าสู่กรอบกฎหมาย เนื้อแท้ก็เพื่อจะปลดสภาพคุกคามจากกลุ่มเหล่านี้ต่อรัฐบาลกลาง แต่จะทำเช่นนั้นได้ รัฐบาลจะต้องมีอะไรให้เป็นการแลกเปลี่ยน
ทางการพม่าหวังว่า การเปิดให้มีการค้าในบริเวณชนเผ่าจะช่วยเพิ่มโอกาสการสร้างงาน แต่ยังไม่เป็นไปตามความหวังในขณะนี้
คุณ Kuensai Jaiyen ผู้ก่อตั้งสำนักข่าว Shan Herald ซึ่งอพยพออกจากพม่ามาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1996 บอกว่า วิธีเดียวที่จะลดการผลิตยาเสพติดในบริเวณนี้ได้คือยุติความขัดแย้งและสร้างงานขึ้น
คุณ Kuensai Jaiyen ของสำนักข่าว Shan Herald บอกว่าความท้าทายคือจะต้องมีสันติภาพและหลักนิติธรรมก่อนอื่น จะมีสันติภาพได้ก็ต้องมีการทำความตกลงทางการเมือง แต่จะต้องยอมรับด้วยว่า สันติภาพนั้นต้องไม่มาจากการบีบบังคับ
และในขณะที่รัฐบาลพม่ากำลังเจรจาหาทางออกอยู่กับบรรดาชนเผ่า พม่าและประเทศเพื่อนบ้านก็กำลังประสบปัญหาเรื่องการค้ายาเสพติดสังเคราะห์ที่เพิ่มมากขึ้นทุกที