ฝิ่นผิดกฏหมายในอาฟกานิสถานแต่ปลูกได้ในอังกฤษ

สภาพอากาศที่แห้งในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมาในประเทศอังกฤษ ผสมผสานกับอากาศที่อุ่นขึ้นในช่วงต้นฤดูร้อน เหมาะกับการปลูกฝิ่นมาก ไร่ฝิ่นที่คุณเอมี่ กัทมัน ผู้สื่อข่าววีโอเอ พาไปดูนี้อยู่ที่ ออกฟอร์เชียร์ ห่างจากกรุงลอนดอน เมืองหลวงของอังกฤษไปทางตะวันตกไม่ไกลมากถ้าขับรถใช้เวลาราวหนึ่งชั่วโมงครึ่ง

ทั่วเกาะอังกฤษ มีไร่ฝิ่นผุดขึ้นมากกว่าสามสิบจุด เกษตรกรชาวอังกฤษเจ้าของไร่เหล่านี้ รับจ้างปลูกฝิ่นให้กับบริษัทแม็คฟาเร็น สมิท บริษัทยาภายในประเทศอังกฤษ เพื่อผลิตเป็นยาแก้ปวดอย่างแรงประเภทมอร์ฟีน ทั้งตัวเกษตรกรผู้ปลูกฝิ่นและบริษัทยา แม็คฟาเร็น สมิท ไม่มีใครอยากเอ่ยปากพูดถึงเรื่องนี้ เพราะเกรงว่าจะอื้อฉาว แม้ว่าการปลูกฝิ่นเพื่อใช้ทางการแพทย์จะได้รับอนุญาตก็ตาม

คุณเร็ก บราวน์ เกษตรกรปลูกฝิ่นที่เกษียณอายุแล้ว บอกว่า ปลูกฝิ่นดีกว่าปลูกข้าวโพด เขาบอกว่า บริษัทยาจะส่งคนของบริษัทมาเก็บเกี่ยวเองโดยใช้รถตัดขนาดใหญ่มาตัดต้นดอกฝิ่น แล้วขนส่งผลผลิตไปที่โรงงานของบริษัทยาภายในเวลา 24 ชั่วโมง โดยเกษตรกรไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยเลย

ไม่เฉพาะเกษตรกรผู้ปลูกฝิ่นในอังกฤษเท่านั้น ที่ยอมรับว่าฝิ่นเป็นพืชที่น่าปลูก ทางสำนักงานบริการสุขภาพ แห่งชาติอังกฤษก็เห็นด้วย เพราะว่าอังกฤษกำลังประสบปัญหาขาดแคลน แก้ปวดประเภทมอร์ฟีนภายในประเทศ จึงต้องการแก้ปัญหานี้ด้วยการปลูกฝิ่นในประเทศ

ขณะที่ปัญหาการขาดแคลนยาแก้ปวดประเภทมอร์ฟีน กลายเป็นปัญหาของทั่วโลก เก้าสิบเปอร์เซ็นของ เฮโรอีนที่ลักลอบเข้าไปขายในยุโรป มาจากฝิ่นที่ปลูกในอาฟกานิสถาน ผู้สื่อข่าววีโอเอ รายงานว่า การปลูกฝิ่นในอาฟกานิสถานไม่ได้ลดน้อยลงอย่างที่คาดหวังกันไว้ แม้ว่าทางองค์การสหประชาชาติ จะตัดทำลายไร่ฝิ่นไปปีละหลายหมื่นไร่ ก็ตาม

ในทางปฏิบัติ ทางการอังกฤษและอเมริกาซึ่งมีทหารของตนประจำการในอาฟกานิสถาน หนุนนโยบาย ทำลายไร่ฝิ่นของสหประชาชาติ เพื่อลดรายได้ผิดกฏหมายจากการขายฝิ่นของกลุ่มทาลีบัน แต่ผู้เกี่ยวข้องจากทั้งสองชาติ มีความเห็นต่างกันต่อนโยบายปราบฝิ่นนี้

คุณไมเคิล คลาค ผู้อำนวยการสถาบัน Royal United Services หน่วยงานความมั่นคงของอังกฤษ บอกว่า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานฝ่ายอเมริกาในอาฟกานิสถาน หนุนให้ตัดฝิ่นให้สิ้นซาก แม้ว่าจะมีกระแสต่อต้านในพื้นที่อย่างมากก็ตาม ส่วนเจ้าหน้าที่ฝ่ายอังกฤษเห็นว่า การตัดฝิ่นในอาฟกานิสถาน รังแต่ทำให้มีการปลูกเพิ่มมากขึ้น

มีการตั้งคำถามขึ้นมาว่า ควรจะมีการร่างกฏหมายขึ้นมารองรับการปลูกฝิ่นในอาฟกานิสถานหรือไม่ เพื่อจะได้นำฝิ่นจำนวนมหาศาลที่ตัดทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ในแต่ละปี มาผลิตเป็นมอร์ฟีนเพื่อประโยชน์ ทางการแพทย์อย่างที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศอังกฤษ

คุณ คลาค กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การรับรองการปลูกฝิ่นในอาฟกานิสถานให้ถูกกฏหมาย เป็นเรื่องใหญ่ ซับซ้อนมากกว่าการเข้าไปตัดทำลายไร่ฝิ่น และอาจจะกลายเป็นตัวบั่นทอนความมั่นคงในอาฟกานิสถานให้เลวร้ายลงไปกว่าเดิม