รัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษยืนยันต่อรัฐสภาว่า รัฐบาลต้องเลือกทำการทดสอบการติดเชื้อโควิด-19 เฉพาะ เนื่องจากอัตราการระบาดที่พุ่งสูงขึ้นเกินกว่ากำลังในการตรวจสอบในปัจจุบัน
แมทท์ แฮนค็อค รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ ปรากฏตัวต่อสมาชิกรัฐสภาในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการรับมือการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ของรัฐบาล ขณะที่การแพร่กระจายของไวรัสนี้ขยายตัวมากขึ้น
รมต.แฮนค็อค กล่าวว่า สิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ที่รัฐบาลนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน เน้นย้ำเสมอมาคือ การให้บริการรักษาผู้ป่วยหนักก่อน จึงค่อยขยายงานการดูแลไปทางด้านสังคม โดยปัจจุบัน มีทีมงานออกไปทำการตรวจผู้ติดเชื้อวันละกว่า 100,000 ครั้ง หลังพบว่า ความเสี่ยงของการติดเชื้อเริ่มมากขึ้นในสถานดูแลผู้สูงอายุต่างๆ
รัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษ กล่าวเสริมว่า ความสามารถในการตรวจสอบการติดเชื้อที่รัฐบาลมีอยู่นั้นกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากจำนวน 220,000 ชุดในเดือนสิงหาคม มาอยู่ที่ราว 243,000 ชุดต่อวัน ในเวลานี้
และเมื่อถูกถามเกี่ยวกับคำร้องเรียนจากประชาชนที่ถูกส่งไปตรวจการติดเชื้อที่ศูนย์บริการซึ่งไกลจากที่พักอาศัย รมต.แฮนค็อค ระบุว่า คนส่วนใหญ่นั้นได้รับบริการการทดสอบจากหน่วยบริการที่อยู่ใกล้บ้าน โดยมีระยะทางเฉลี่ยอยู่ที่ราว 5.8 ไมล์ หรือ ประมาณ 9.3 กิโลเมตรเท่านั้น
นอกจากนั้น รัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษ ยังยืนยันว่า กฎใหม่ที่ประกาศใช้ในอังกฤษ สก็อตแลนด์ และเวลส์ เมื่อวันจันทร์ ซึ่งห้ามไม่ให้มีการชุมนุมในที่สาธารณะของผู้คนเกิน 6 คน ยกเว้นในบางกรณี เช่น ที่โรงเรียน หรือสถานที่ทำงาน คือสิ่งที่จำเป็นต้องดำเนินการอย่างยิ่ง