นักวิเคราะห์กล่าวว่า ‘เบร็กซิต’ เป็นปัจจัยที่ทำให้รัฐบาลกรุงลอนดอนต้องพิจารณาถึงการเป็นพันธมิตรกับจีนและสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสองมหาอำนาจสำคัญของโลก ทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมือง
และการใกล้ชิดกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากเกินไปอาจสร้างความยากลำบากในการดำเนินความเป็นมิตรกับประเทศอีกฝั่งหนึ่งของความสัมพันธ์
นักวิเคราะห์ หยู จี้ แห่ง Chatham House กล่าวว่ารัฐบาลปักกิ่งมี “ความหวังที่สูง” ที่อังกฤษจะช่วยสนับสนุนจีนในเวทีโลก
แต่ถ้าอังกฤษเป็น ‘กองเชียร’ ให้จีน สหรัฐฯ อาจจะไม่พอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพิจารณาถึง ความขัดแย้งระหว่างจีนและสหรัฐฯ
และการที่รัฐบาลลอนดอนพิจารณาที่จะให้บริษัทหัวเหว่ยของจีน ช่วยสร้างบางส่วนของระบบการสื่อสาร 5 จี ในอังกฤษ ได้สร้างความกังวลต่อสหรัฐฯ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รัฐบาลอเมริกันเกรงว่า บริษัทโทรคมนาคมจีนจะสอดแนมหน่วยงานต่างๆ เพื่อส่งความลับให้ทางการปักกิ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวว่า อาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของอังกฤษและของสหรัฐฯ ด้วย
รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ ย้ำถึงความกังวลเรื่องนี้ในวันพุธต่อนายกรัฐมนตรี เธเรซา เมย์ และรัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษ เจรามี ฮันท์ ที่กรุงลอนดอน
รัฐมนตรีพอมเพโอของสหรัฐฯ ได้เตือนว่าประเทศตะวันตกควรหลีกเลี่ยงสินค้าและบริการของหัวเหว่ย
เขาเตือนว่า ประเทศที่มองข้ามคำเตือนนี้อาจสูญเสียการแบ่งบันข่าวกรองกับอเมริกา
และสำหรับอังกฤษ เจ้าหน้าอเมริกันหลายคนกล่าวว่า หากอังกฤษไม่เปลี่ยนใจในเรื่องโครงการของหัวเหว่ย รัฐบาลลอนดอนเสี่ยงที่จะสร้างความเสียหายต่อความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษและสหรัฐฯ
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวคนหนึ่งกล่าวกับวีโอเอว่า ประเด็นเรื่องโครงการของหัวเหว่ยในอังกฤษน่าจะถูกหยิบยกมาพูดถึง ในการเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในเดือนหน้า
ออสเตรเลียและนิวซีเเลนด์ เป็นตัวอย่างประเทศที่ดำเนินการอย่างระมัดระวังกับหัวเหว่ย โดยรัฐบาลของทั้งสองประเทศสร้างข้อจำกัดที่สำคัญต่อการใช้บริการของบริษัทเทคโนโลยีจีนรายนี้
อย่างไรก็ตาม หัวเหว่ยปฏิเสธว่าไม่ได้ถูกควบคุมโดยรัฐบาลจีน และอุปกรณ์ของบริษัทไม่สามารถถูกใช้เพื่อการสอดแนมได้
เอ็ด ลูคัส ผู้เขียนบทความแสดงความคิดเห็น แห่งหนังสือพิมพ์ The Times ของอังกฤษ กล่าวว่าอังกฤษ ‘ในยามยาก’ จะตกเป็นเหยื่อของจีนอย่างง่ายดาย
เขากล่าวว่าอังกฤษน่าจะไม่มีข้อต่อรองที่ทรงพลังในการเจรจาการค้าทวิภาคีกับจีน และความสัมพันธ์กับจีนจากนี้อาจทำให้อังกฤษถูกแปลกแยกจากพันธมิตรเดิม
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่อังกฤษปฏิเสธว่านายกรัฐมนตรีเมย์ ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่ใช้โครงการ 5 จีของหัวเหว่ยเป็นเครื่องมือเเสวงหาความตกลงการค้ากับจีนหลัง ‘เบร็กซิต’
พรรคอนุรักษ์นิยมของรัฐบาลอังกฤษก่อนหน้านี้มองหาความตกลงการค้ากับจีนบ่อยครั้ง
ตัวอย่างเช่น เมื่อครั้งที่อังกฤษได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกเมื่อ 11 ปีก่อน อังกฤษต้อนรับการลงทุนจากจีน และในปี ค.ศ. 2013 อังกฤษเป็นประเทศตะวันตกรายแรกที่เข้าร่วมธนาคารเพื่อการลงทุนในระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานแห่งเอเชียหรือ AIIB (Asian Infrastructure Investment Bank) ที่จีนเป็นแกนนำ
รัฐบาลอังกฤษถูกวิจารณ์โดยรัฐบาลอเมริกันสมัยประธานาธิบดีบารัคโอบามา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ รายหนึ่งกล่าวกับสื่อ Financial Times ว่าอังกฤษทำตามใจจีนอย่างสม่ำเสมอ
โจนาธาน ชอว์ อดีตเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของกระทรวงกลาโหมอังกฤษกล่าวว่าอังกฤษกำลังมองหาบทบาทของตนเองในยุคปัจจุบัน และสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นคือ ‘สงครามเย็นทางเทคโนโลยี’ ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งอเมริกากำลังถามว่าอังกฤษจะอยู่ฝ่ายใด
(รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียงจากรายงานของ Jamie Dettmer)