ลิ้งค์เชื่อมต่อ

นโยบายขึ้นค่าโดยสารกลายเป็นสัญญาณปลุกให้ชาวบราซิลลุกขึ้นประท้วงรัฐบาล ตั้งแต่ปัญหาคอรัปชั่นไปถึงการละเลยคุณภาพชีวิตประชาชน


การประท้วงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในบราซิลในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีจุดเริ่มต้นมาจากความไม่พอใจของประชาชนต่อค่าโดยสารรถประจำทางและรถไฟใต้ดิน และได้ลุกลามไปเป็นการประท้วงต่อต้านรัฐบาลบราซิลที่เพิกเฉยต่อบริการสาธารณะและความเป็นอยู่ของประชาชน แต่กลับทุ่มเงินลงทุนมหาศาลในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 และกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2016 รวมทั้งฟุตบอล Confederations Cup ที่ดำเนินอยู่ในขณะนี้

การประท้วงที่กำลังดำเนินอยู่ในหลายเมืองใหญ่ทั่วบราซิลขณะนี้ ถือเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 20 ปี เฉพาะที่นครเซา เปาโล มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 50,000 คน ซึ่งเมื่อรวมเมืองอื่นๆ จำนวนผู้ประท้วงเพิ่มเป็นกว่า 240,000 คนแล้ว การประท้วงส่วนใหญ่เป็นไปอย่างสงบ แต่บางแห่งมีการทำลายทรัพย์สิน ปล้นร้านค้า และการปะทะกันระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วง เช่นที่นครริโอ เอดจาเนโร ซึ่งมีตำรวจและผู้ประท้วงบาดเจ็บจากการปะทะกับรวมหลายสิบคน

การประท้วงครั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่ประชาชนจำนวนมากไม่พอใจที่รัฐบาลขึ้นค่าโดยสารรถประจำทางและรถไฟใต้ดินอีก 10 เซนต์ และได้ลุกลามขยายไปเป็นการประท้วงที่แสดงออกถึงความขุ่นเคืองที่มีต่อรัฐบาลในหลายเรื่อง ตั้งแต่เรื่องค่าครองชีพที่สูงขึ้น การขาดแคลนบริการสาธารณะ ไปจนถึงปัญหาคอรัปชั่น

คุณ Paulo Sotero Marques ผอ.สถาบันบราซิลศึกษาของ Woodrow Wilson International Center for Scholars ในกรุงวอชิงตันชี้ว่า การประท้วงครั้งนี้มิได้ขับเคลื่อนโดยคนจน แต่เป็นคนชั้นกลางที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นและต้องการแสดงความไม่พอใจต่อคุณภาพของบริการของรัฐโดยรวม เป็นการเรียกร้องคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ การประท้วงยังมีเป้าหมายโจมตีการที่รัฐบาลบราซิลทุ่มเงินลงทุนหลายหมื่นล้านดอลล่าร์ในการก่อสร้างสนามกีฬาและสาธารณูปโภคต่างๆเพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬารายการใหญ่หลายรายการ คือฟุตบอล Confederations Cup ที่กำลังแข่งขันอยู่ ฟุตบอลโลกปี ค.ศ 2014 และกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนปี ค.ศ 2016 แม้ว่ารัฐบาลบราซิลและตัวแทนคณะกรรมการโอลิมปิกสากลได้ออกมาระบุว่า เงินที่ใช้จ่ายไปในการเป็นเจ้าภาพนั้น จะเป็นประโยชน์ต่อชาวบราซิลเองก็ตาม

รองรมต.กระทรวงกีฬาบราซิล Luis Fernandes การแข่งขันฟุตบอลโลกในปีหน้า คือโอกาสที่ดีที่สุดในการลงทุนก่อสร้างโครงสร้างสาธารณูปโภคต่างๆเพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการพัฒนาของบราซิลในอนาคต ด้านคุณ Sotero นักวิเคราะห์แห่ง Woodrow Wilson International Center เชื่อว่าเมื่อรัฐบาลบราซิลทำตามความต้องการหลักของผู้ประท้วง นั่นคือยกเลิกนโยบายขึ้นค่าโดยสาร ผู้ประท้วงก็จะสลายตัวไปเอง

ขณะนี้เมืองใหญ่อย่างน้อย 4 เมืองของบราซิลรวมถึงนครริโอ เดอ จาเนโร และนครเซา เปาโล ตัดสินใจระงับมาตรการขึ้นค่าโดยสารดังกล่าวแล้ว แต่ดูเหมือนการประท้วงจะยังดำเนินต่อไป

Leandro Pergula หนึ่งในผู้ประท้วงบอกว่า ประเด็นค่าโดยสารขึ้นราคานั้นเป็นเพียงสัญญาณปลุกให้ชาวบราซิลตื่นขึ้นมาแสดงพลังต่อต้านรัฐบาลเพื่อสิทธิของพวกเขา เวลานี้ถึงเวลาต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ความมั่นคงปลอดภัย การศึกษาและสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
XS
SM
MD
LG