หนังสือชื่อ “The Merchant of Death” ที่คุณ ดักลาส ฟาราห์ (Douglas Farah) เขียนนั้นเกี่ยวกับชีวประวัติของนายวิกตอร์ บูท (Victor Booth) ผู้ต้องหาว่าดำเนินการลักลอบค้าอาวุธรายใหญ่มหึมา
คุณดักลาส ฟาราห์ กล่าวว่า นายวิกตอร์ บูทเคยเป็นนายทหารอากาศโซเวียตผู้มองเห็นลู่ทางที่จะขายอาวุธให้แก่นานาประเทศขณะที่สงครามเย็นสิ้นสุดลง และว่านายวิกตอร์ บูท มองเห็นว่ามีอาวุธเป็นจำนวนมหาศาลตามคลังแสงซึ่งจะนำออกมาขายได้ในราคาถูก อีกทั้งทหารทั้งนายและพลทหารที่ปฎิบัติหน้าที่อยู่ที่นั่นไม่ได้รับเงินเดือน ตลอดจนมีเครื่องบินจอดอยู่ตามลานบินทั่วย่านอดีตสหภาพโซเวียตซึ่งบินไปไหนไม่ได้เพราะไม่มึเงินซื้อเชื้อเพลิงหรือเพื่อใช้ในการซ่อมบำรุง เขากล่าวด้วยว่า นายวิกตอร์ บูท จึงเอาเหตุการณ์ทั้งสองมาผสมผสานกันแล้วเริ่มใช้อากาศยานขนอาวุธออกไปจากสหภาพโซเวียตเพื่อส่งไปขายรอบโลก เขายกตัวอย่างเกี่ยวกับการลักลอบค้าอาวุธของนายวิกตอร์ บูท ซึ่งรวมถึงการที่สหประชาชาติ สหรัฐ อังกฤษ และประเทศอื่นๆกล่าวหาว่า นายวิกตอร์ บูท ใช้เครื่องบินขนอาวุธเข้าไปในไลบีเรีย (Liberia) และเซียร่า เลโอน (Sierra Leone) ตอนที่สงครามในแอฟริกาตะวันตกกำลังดุเดือดโหดร้ายทารุณยิ่ง แต่เขากล่าวว่า นายวิกตอร์ บูท มิได้จัดหาอาวุธให้ข่ายงานก่อการร้ายอัลไคด้า (al-Qaida) แต่ทว่าติดต่อค้าขายอาวุธกับขบวนการ ทาเล็บบัน (Taliban) มากทีเดียวทั้งนี้เพราะเหตุผลประการหนึ่งคือ เครื่องบินของเขาที่นำอาวุธไปส่งให้พันธมิตรทางภาคเหนือต้องลงในเขตแดนของขบวนการทาเล็บบัน เขากล่าวด้วยว่าขบวนการทาเล็บบันเอากระสุนดินดำไปและควบคุมตัวคนของนายวิกตอร์ บูทไว้ราวหนึ่งปี แล้วจู่ก็มีการปล่อยตัวคนเหล่านั้น และนายวิกตอร์ บูท ก็เริ่มส่งกระสุนดินดำและให้อากาศยานแก่ขบวนการทาเล็บบันในท้ายที่สุด
นายวิกตอร์ บูท โดนกล่าวหาว่าขายอาวุธให้แก่ทุกฝ่ายที่มีเงินซื้อนั้นมานาน 20 ปี พร้อมกันนั้นเขาก็หลบหนีรอดพ้นเงื้อมมือของเจ้าหน้าที่ของนานาประเทศได้ด้วย คุณดักลาส ฟาราห์ กล่าวว่า ในที่สุด นายวิกตอร์ บูท มาถูกจับกุมที่ประเทศไทยเมื่อปีพุทธศักรคาช 2551 เนื่องจากโดนสายลับขององค์การรักษากฎหมายยาเสพติดอเมริกันหลอกซื้ออาวุธโดยวิธีอ้างตัวว่าเป็นสมาชิกของขบวนการกองโจร Revolutionary Armed Forces of Colombia หรือ FARC
คณดักลาส ฟาราห์ กล่าวว่า หลังจากสายลับอเมริก้นพบปะและติดต่อทางโทรศัพท์กับนายวิกตอร์ บูท หลายตั้ง สายลับอเมริกันก็นัดหมายให้มาพบกันเพื่อทำความตกลงขั้นสุดท้าย ณ กรุงเทพมหานคร และว่า ที่กรุงเทพมหานครนี่เอง อาวุธที่นายวิกตอร์ บูทเสนอที่จะขายให้ก็คือขีปนาวุธแบบที่ยิงจากภาคพื้นดินสู่อากาศ และยานไร้นักบินควบคุมที่บังคับจากระยะไกลสำหรับใช้โจมตีที่ตั้งเรดาร์ของอเมริกาเป็นต้น อีกทั้งนายวิกตอร์ บูทยังกล่าวว่า เขาทราบแน่ว่าอาวุธเหล่านั้นจะนำไปใช้ฆ่าฝ่ายอเมริกัน ตุณดักลาส ฟาราห์ กล่าวว่าเพราะเหตุที่ FARC โดนระบุว่าเป็นองค์การของผู้ก่อการร้าย จึงเป็นเรื่องที่จะส่งนายวิกตอร์ บูท เข้าคุกได้เป็นเวลานานทีเดียว
คุณดักลาส ฟาราห์ กล่าวด้วยว่า นายวิกตอร์ บูท มีเพื่อนผู้ทรงอิทธิพลอยู่ในสำนักข่าวกรองรัสเซียหลายคน ผู้ต้องการคุ้มครองเขาและวิตกกังวลว่าเขาอาจแฉความลับต่างๆที่เขารู้ให้เจ้าหน้าที่อเมริกันทราบ แต่คุณดักลาส ฟาราห์ บอกด้วยว่า ยังมีคนอื่นๆอีกที่วิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่นายวิกตอร์ บูท อาจนำมาเปิดเผยระหว่างการโดนซักปากคำ
คุณดักลาส ฟาราห์ กล่าวว่า นายวิกตอร์ บูท ขนอาวุธไปขายให้ฝ่ายที่เป็นพวกกับสหรัฐในอิรัก ให้อังกฤษและให้สหประชาชาติ และข้อหนึ่งที่ทำให้เขาเป็นคนที่ผิดกว่าคนอื่นๆก็คือ เขาจะขนและนำอาวุธไปขายยังทุกที่ที่ต้องการซื้อ และกล่าวว่า หลายคนคงจะสบายใจถ้าเราไม่จาระไนเกี่ยวกับประวัติอันยาวนานของนายวิกตอร์ บูท
