นายกรัฐมนตรีอังกฤษ บอริส จอห์นสัน เรียกร้องให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 12 ธันวาคม เพื่อให้ผู้ลงคะแนนเสียงมีโอกาสแสดงความเห็นเกี่ยวกับการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป ผ่านคูหาเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม นายกฯ จอห์นสัน ต้องการเสียงสนับสนุนจาก 2 ใน 3 ของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้สามารถจัดการเลือกตั้งใหม่ขึ้นได้ ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าเขามีเสียงสนับสนุนดังกล่าวเพียงพอหรือไม่ เนื่องจากพรรคอนุรักษ์นิยมของเขานั้นมีเสียงไม่ถึงครึ่งหนึ่งของรัฐสภา ทำให้เขาต้องการเสียงสนับสนุนไม่น้อยจากพรรคแรงงานซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน แต่ทางสมาชิกพรรคแรงงานก็ยืนยันว่าจะสนับสนุนให้มีการเลือกตั้งใหม่ก็ต่อเมื่อนายกฯ จอห์นสัน เลื่อนการแยกตัวจากอังกฤษตามกำหนดการในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ออกไปก่อน
นายกฯ จอห์นสัน ส่งจดหมายถึงหัวหน้าพรรคแรงงาน นายเจเรมี คอร์บิน ว่าการเลือกตั้งในวันที่ 12 ธ.ค. จะช่วยให้อังกฤษมีรัฐบาลและรัฐสภาชุดใหม่ก่อนวันคริสต์มาส ซึ่งหากตนเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งและได้เสียงข้างมากในรัฐสภา เราก็จะมีข้อตกลงเบร็กซิตฉบับใหม่ภายในเดือนมกราคม และประเทศก็จะเดินหน้าต่อไปได้
ท่าทีล่าสุดของนายจอห์นสันมีขึ้นหลังจากเมื่อสองวันก่อน สภาผู้แทนราษฎรของอังกฤษลงมติด้วยคะแนน 322 ต่อ 308 เสียงไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลอังกฤษตั้งเงื่อนเวลาไว้เพียงสามวันเพื่อให้สภาผ่านร่างกฎหมายชื่อ Withdrawal Agreement Bill
โดยร่างกฎหมายนี้มีความยาวรวม 115 หน้า กำหนดรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อจะนำข้อตกลง Brexit ฉบับล่าสุด ซึ่งนายจอห์นสันไปเจรจากับสหภาพยุโรปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไปปฏิบัติ
การที่สภาผู้แทนราษฎรอังกฤษปฏิเสธการกำหนดเงื่อนเวลาสามวันจากรัฐบาลเพื่อให้ผ่านร่างกฏหมายที่จะกำหนดรายละเอียดในทางปฏิบัติของ Brexit เมื่อวันอังคาร ทำให้มีโอกาสเพิ่มมากขึ้นว่า Brexit อาจจะไม่เกิดขึ้นได้ภายในวันที่ 31 ตุลาคม ตามที่นายกรัฐมนตรีจอห์นสันต้องการ และได้ประกาศไว้
เพราะ ส.ส. อังกฤษหลายคนเห็นว่า เวลาเพียงสามวันนั้นไม่เพียงพอสำหรับการทำความเข้าใจและพิจารณารายละเอียดต่าง ๆ ของร่างกฎหมายเพื่อรองรับ Brexit ซึ่งมีความยาวถึงกว่า 100 หน้า และในทางกลับกัน รัฐบาลอังกฤษเองก็เกรงว่าถ้ายิ่งยืดเวลาออกไป ก็มีโอกาสมากขึ้นที่ร่างกฎหมายนี้จะถูกแก้ไขเปลี่ยนโฉมโดยสภา
และเมื่อวันอังคารเช่นกัน นายกรัฐมนตรีจอห์นสันกล่าวว่า หากสภาไม่พิจารณาผ่านร่างกฏหมายเพื่อกำหนดรายละเอียดในทางปฏิบัติสำหรับข้อตกลง Brexit ตามที่ตนต้องการแล้ว ตนก็จะถอนร่างกฎหมายนี้จากสภา และจัดการเลือกตั้งใหม่ก่อนกำหนดด้วย
โดยนายกรัฐมนตรีของอังกฤษอ้างว่า ในขณะนี้ทั้งประชาชนอังกฤษ สหภาพยุโรป รวมทั้งตนเอง ไม่ต้องการให้กำหนดการเรื่อง Brexit ต้องยืดเยื้อออกไปมากกว่านี้ และควรเร่งให้เรื่องนี้เกิดขึ้นภายในวันที่ 31 ตุลาคมเ พื่อจะหันไปให้ความสนใจเรื่องอื่นต่อไป