รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน พบหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน หวัง อี้ ระหว่างการประชุมสุดยอดของผู้นำกลุ่ม G-20 ในวันอาทิตย์ ที่กรุงโรม อิตาลี ท่ามกลางความตึงเครียดของประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกสองประเทศ
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า การหารือของรัฐมนตรีบลิงเคนและรัฐมนตรีหวังเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา สร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ โดยรัฐมนตรีบลิงเคนได้แจ้งให้รัฐมนตรีต่างประเทศจีนทราบถึงความกังวลของสหรัฐฯ เกี่ยวกับกรณีไต้หวันและนโยบายจีนเดียว
โดยหนึ่งในเป้าหมายของการหารือครั้งนี้คือการรักษาช่องทางการสื่อสารระหว่างสหรัฐฯ กับจีนเอาไว้ รวมทั้งการจัดทำโครงร่างการประชุมสุดยอดออนไลน์ระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในช่วงปลายปีนี้
รัฐมนตรีบลิงเคน กล่าวว่า จีนกำลังทำให้เกิดความตึงเครียดจากการแสดงท่าทีก้าวร้าวต่อไต้หวัน พร้อมยืนยันว่าสหรัฐฯ ยังคงยึดมั่นกับ "นโยบายจีนเดียว" ซึ่งยอมรับสถานะของรัฐบาลกรุงปักกิ่งบนเวทีโลก แต่ก็สามารถมีความสัมพันธ์อย่างไม่เป็นทางการและความความสัมพันธ์ทางทหารกับไต้หวันควบคู่กันไปด้วย
ทั้งนี้ สหรัฐฯ รับรองจีนแผ่นดินใหญ่ภายใต้นโยบายจีนเดียว เมื่อปีค.ศ. 1979 แต่ขณะเดียวกัน สภาคองเกรสก็ผ่อนกฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน (Taiwan Relations Act) ซึ่งอนุญาตให้มีการส่งอาวุธให้ไต้หวันเพื่อป้องกันตนเอง
ที่ผ่านมา จีนพยายามกดดันทั้งทางการเมืองและการทหารเพื่อให้ไต้หวันยอมรับการเป็นส่วนหนึ่งของจีน รวมทั้งการส่งเครื่องบินไอพ่นเข้าไปในเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันตนเองทางอากาศของไต้หวันเพิ่มขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
เมื่อต้นเดือนนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ระบุว่า สหรัฐฯ พร้อมปกป้องไต้หวันจากการรุกรานใด ๆ ของจีน ก่อนที่ทำเนียบขาวจะกลับลำหลังจีนส่งสัญญาณเตือน และกลับมาแสดงท่าทีคลุมเครือถึงการแทรกแซงทางการทหารหากจีนเปิดฉากโจมตีต่อไป
สำหรับในประเด็นสิ่งแวดล้อม รมต.บลิงเคน กล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ ต้องการให้จีนควบคุมการปล่อยก๊าซที่เป็นสาเหตุของปรากฏการณ์เรือนกระจก เพื่อแสดงความรับผิดชอบในฐานะที่เป็นหนึ่งในประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจของโลก
โดยการหารือของผู้นำกลุ่ม G-20 นี้มีขึ้นก่อนการประชุมของสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก หรือ COP26 จะเริ่มขึ้นในวันจันทร์นี้ที่เมืองกลาสโกว์ ประเทศสก็อตแลนด์