อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ตัวแทนพรรคเดโมแครตในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนนี้ เดินทางเยือนเมืองเคโนชา รัฐวิสคอนซิน เพื่อจัดการประชุมกับชุมชนในท้องถิ่นสืบเนื่องจากการประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมจากเหตุการณ์ตำรวจยิงชายอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน
ก่อนหน้านี้สองวัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่งเดินทางเยือนเมืองแห่งนี้ที่มีประชากรราว 1 แสนคน และได้เดินไปตามถนนที่มีร่องรอยความเสียหายจากการประท้วงและความวุ่นวายหลังจากที่ตำรวจได้ยิงชายผิวดำวัย 29 ปี เจค็อบ เบลค (Jacob Blake) ที่ถูกตำรวจยิงจนบาดเจ็บสาหัส และทำให้ประชาชนโกรธแค้นจนลุกฮือขึ้นประท้วง
นายไบเดนเยี่ยมเยือนครอบครัวของนายเบลคในวันพฤหัสบดี แม้ว่าก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีทรัมป์มิได้เยี่ยมเยือนครอบครัวของชายผิวดำผู้นี้แต่อย่างใด แต่ได้พูดคุยกับบาทหลวงผู้หนึ่งที่ระบุว่าเป็นบาทหลวงของครอบครัวเบลคแทน
การที่ผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้งสองคน เดินทางเยือนเมืองเดียวกันในเวลาห่างกันไม่กี่วัน แสดงให้เห็นว่าทั้งสองคนให้ความสำคัญกับประเด็นอ่อนไหวในเรื่องสีผิวและการปฏิบัติของตำรวจที่มีต่อคนอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน หลังการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ ที่นครมินนิแอโปลิส เมื่อเดือน พ.ค.
เมื่อวันอังคาร ที่เมืองเคโนชา ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศจัดสรรงบประมาณรัฐบาลกลางสหรัฐฯ 42 ล้านดอลลาร์ ให้กับหน่วยงานบังคับใช้กฏหมายและยกระดับความปลอดภัยในรัฐวิสคอนซิน พร้อมกล่าวปราศรัยต่อกองกำลังเนชั่นแนลการ์ดให้พยายามควบคุมความรุนแรงในเมืองนี้
ขณะเดียวกัน ปธน.ทรัมป์ ไม่ขอวิจารณ์กรณีที่ ไคล์ ริทเทนเฮาส์ วัยรุ่นผิวขาวชาวอเมริกันที่อ้างว่าออกมาปกป้องธุรกิจในพื้นที่ในเมืองเคโนชาจากผลกระทบของการประท้วง และถูกดำเนินคดีข้อหาในความผิดทางอาญา 5 ข้อหา ซึ่งรวมถึง การฆาตกรรมโดยมีการวางเเผนมาก่อนและโดยเจตนา ด้วยข้อกล่าวหาว่ายิงผู้อื่นจนเสียชีวิต 2 รายและบาดเจ็บอีก 1 ราย
ผู้นำสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่า นายริทเทนเฮาส์ถูกรุมทำร้ายอย่างรุนแรง และอาจจะถูกฆ่าตายได้ ถ้าไม่ยิงใส่ผู้ชุมนุมประท้วงเสียก่อน
ด้านนายโจ ไบเดน วิจารณ์ประธานาธิบดีทรัมป์ว่าล้มเหลวที่ไม่ยอมประณามความรุนแรงที่เกิดจากกลุ่มแนวคิดสุดโต่ง รวมทั้งการที่ผู้นำสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะตำหนิการกระทำของนายริทเทนเฮาส์ด้วย
ไบเดน ถือเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกในรอบ 8 ปีที่เดินทางเยือนรัฐวิสคอนซินซึ่งถูกมองว่าเป็นรัฐที่คะแนนส่วนใหญ่เป็นของพรรคเดโมแครตอยู่แล้วในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่าน ๆ มา
อย่างไรก็ตาม ในการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีก่อน ทรัมป์สามารถเอาชนะฮิลลารี คลินตัน ไปได้อย่างฉิวเฉียดที่รัฐนี้ รวมทั้งอีกสองรัฐที่เคยเป็นของพรรคเดโมแครตมาตลอด คือ รัฐเพนซิลเวเนีย และรัฐมิชิแกน จนทำให้เขาสามารถชนะเลือกตั้งได้ในครั้งนั้นและได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี