ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน เริ่มภารกิจในช่วงวันหยุดยาว “เมโมเรียล เดย์” (Memorial Day) หรือวันรำลึกถึงผู้วายชนม์ในสงครามต่าง ๆ ที่สหรัฐฯ เคยเข้าร่วม ด้วยการเยี่ยมเยือนยิมปีนผาแหงหนึ่งในรัฐเวอร์จิเนีย ไม่ไกลจากกรุงวอชิงตัน ที่เพิ่งเริ่มกลับมาเปิดบริการอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง
ปธน.ไบเดน กล่าวที่ Sportrock Climbing Centers ในเขตอเล็กซานเดรีย รัฐเวอร์จิเนีย ในวันศุกร์ว่า “เวลานี้คนอเมริกันทั่วประเทศได้ก้าวออกจากความเจ็บปวดและฤดูหนาวอันหนาวเย็นและมืดมน ไปสู่การผลักดันเศรษฐกิจให้เดินไปข้างหน้าแล้ว” ปธน.ไบเดน ยังกล่าวขอบคุณคนอเมริกันทุกคนที่ช่วยทำหน้าที่ของตนเอง ด้วยการเข้ารับวัคซีนโควิด-19 ทำให้ขณะนี้มีประชากรอเมริกันมากกว่า 51% ที่ได้รับวัคซีนครบโดส และได้กล่าวกระตุ้นให้ส่วนที่เหลือเข้ารับวัคซีนด้วย
สุดสัปดาห์ Memorial Day คือสุดสัปดาห์ที่คนอเมริกันถือกันว่าเป็นการเริ่มต้นฤดูร้อนในแต่ละปี โดยคนอเมริกันจำนวนมากจะแขวนธงชาติไว้หน้าบ้าน หรือเดินทางไปเคารพหลุมศพของผู้ที่เสียชีวิตในสงครามต่าง ๆ ที่สหรัฐฯ เข้าร่วม
และในปีนี้ รัฐบาลทั้งในระดับชาติและระดับรัฐต่างประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด รวมถึงการไม่บังคับสวมหน้ากากในที่สาธารณะและผ่อนคลายการเว้นระยะห่างทางสังคมด้วย เพื่อให้ประชาชนส่วนใหญ่สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง
ในวันศุกร์ รัฐเวอร์จิเนียประกาศยกเลิกมาตรการควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการธุรกิจต่าง ๆ รวมทั้งมาตรการเว้นระยะห่าง หลังจากอัตราการติดเชื้อลดลงอยู่ที่ระดับ 2.6% และประชากรได้รับวัคซีนแล้วประมาณ 54%
การผ่อนคลายมาพร้อมการตรวจสอบต้นตอไวรัสรอบใหม่
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีไบเดนมีแถลงการณ์ขอให้หน่วยงานด้านข่าวกรองทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเรื่องต้นกำเนิดของโคโรนาไวรัส ก่อนที่จะรายงานกลับมาที่ตนภายในเวลา 90 วัน โดยจะมีการเปิดเผยผลการสอลสวนรอบใหม่นี้ต่อสาธารณชนด้วย
ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า ขณะนี้หน่วยงานด้านข่าวกรองในสหรัฐฯ ได้มุ่งเป้าไปที่สองประเด็นแตกต่างกันที่อาจเป็นจุดกำเนิดของการระบาดของโคโรนาไวรัส ซึ่งยังไม่มีการให้น้ำหนักไปที่ประเด็นใดประเด็นหนึ่งโดยเฉพาะ
รายงานของคณะกรรมาธิการข่าวกรองของพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนฯ เมื่อต้นเดือนนี้ ชี้ว่า มีหลักฐานสำคัญที่ทำให้เกิดความกังวลว่า เชื้อโคโรนาไวรัสที่เป็นสาเหตุของโควิด-19 อาจเล็ดลอดออกมาจากห้องทดลองในอู่ฮั่น ในขณะที่รายงานซึ่งจัดทำร่วมกันระหว่างนักวิทยาศาสตร์จีนและคณะเจ้าหน้าที่ขององค์การอนามัยโลกที่เข้าไปตรวจสอบต้นตอของโคโรนาไวรัสที่เมืองอู่ฮั่น ซึ่งเปิดเผยเมื่อเดือนมีนาคม ระบุว่า เชื้อโคโรนาไวรัสอาจติดต่อผ่านจากค้างคาวไปยังสัตว์อีกชนิดหนึ่งก่อนที่จะระบาดสู่มนุษย์
