คะแนนนิยมในตัว โจ ไบเดน ผู้ท้าชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีจากฝั่งเดโมแครตพุ่งสูง 13% เหนือประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งนับว่าสูงสุดนับตั้งแต่การเปิดตัวสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี จากวิกฤตโควิด-19 และปัญหาการใช้ความรุนแรงของตำรวจในอเมริกา ตามการสำรวจของรอยเตอร์และอิปซอส
ในการสำรวจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งชาวอเมริกันของรอยเตอร์และอิปซอส ที่เก็บข้อมูลชาวอเมริกัน 4,426 คน ช่วง 10-16 มิถุนายน ระบุว่า 48% สนับสนุนนายไบเดน ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ ขณะที่ 35% ในการสำรวจสนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์ นับว่าตอนนี้นายไบเดนมีคะแนนนิยมทิ้งห่างผู้นำสหรัฐฯถึง 13% ซึ่งใกล้เคียงกับการสำรวจจาก CNN เมื่อต้นเดือนมิถุนายน ระบุว่า คะแนนนิยมในตัวนายไบเดน นำห่างปธน.ทรัมป์ ถึง 14% ในความเห็นชาวอเมริกันผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง
ผลสำรวจของรอยเตอร์และอิปซอสล่าสุด ยังระบุว่า 57% ของชาวอเมริกันไม่ยอมรับผลงานของปธน.ทรัมป์ ซึ่งเป็นคะแนนนิยมที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 7 เดือนของผู้นำสหรัฐฯ แต่อีก 38% ยังยอมรับผลงานอยู่ ที่น่าสนใจคือคะแนนนิยมในตัวปธน.ทรัมป์ในหมู่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่สนับสนุนพรรครีพับลิกัน ร่วงลง 13% มาตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึงมิถุนายน จากปัญหาการระบาดของโคโรนาไวรัส ทิศทางเศรษฐกิจที่ถดถอย และประเด็นการใช้ความรุนแรงของตำรวจ ที่นำไปสู่การเสียชีวิตของชายแอฟริกันอเมริกันเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
อีกด้านหนึ่งในการสำรวจจาก CNBC/Change Research ที่เปิดเผยเมื่อวันพุธ ระบุว่า นายไบเดน ได้คะแนนนิยมพุ่งสูงกว่าประธานาธิบดีทรัมป์ ใน 6 รัฐที่เป็นสวิงสเตทในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีปีนี้ โดยในการสำรวจในรัฐแอริโซนา ฟลอริดา มิชิแกน นอร์ท แคโรไลนา เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน ซึ่งเป็น 6 รัฐที่ชี้วัดศึกเลือกตั้งสหรัฐฯปีนี้ พบว่า คะแนนนิยมในตัวนายไบเดนอยู่ที่ 48% และปธน.ทรัมป์ อยู่ที่ 45% ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นายไบเดนมีคะแนนนิยมเหนือปธน. ทรัมป์ใน 6 รัฐนี้