ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีกำหนดปิดประชุมสุดยอดออนไลน์ประเทศประชาธิปไตยในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ด้วยการเน้นประเด็นบูรณภาพของการเลือกตั้ง การรับมือกับการใช้เทคโนโลยีไปในทางที่ผิดของระบอบเผด็จการอำนาจนิยม และสนับสนุนสื่ออิสระ ตามรายงานของสำนักข่าว Associated Press
สหรัฐฯ ออสเตรเลีย เดนมาร์ก และนอร์เวย์ ประกาศข้อริเริ่มร่วมกันเพื่อสกัดกั้นการใช้เทคโนโลยีไปในทางที่ผิดเพื่อปิดกั้นผู้เห็นต่างภายใต้ระบอบอำนาจนิยม และเพื่อช่วยพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่เพื่อสนับสนุนสิทธิมนุษยชน
ข้อริเริ่มดังกล่าวยังเรียกร้องให้มีการกำหนดจรรยาบรรณเพื่อเป็นแนวทางด้านสิทธิมนุษยชนให้รัฐบาลและบริษัทเทคโนโลยีในด้านการส่งออกและนโยบายด้านการขึ้นทะเบียน โดยภายใต้กฎบัตรด้านสินค้าสาธารณะดิจิตัลนี้ ภาคส่วนต่างๆ ทั้งรัฐบาล กลุ่มประชาสังคม ผู้พัฒนาซอฟท์แวร์ และบริษัทเทคโนโลยี จะต้องกำหนดหลักการสำหรับสินค้าเทคโนโลยีแบบเปิดกว้าง หรือ “โอเพนซอร์ส”
นางซาแมนธา พาวเวอร์ ผู้อำนวยการหน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐฯ หรือ USAID กล่าวว่า สหรัฐฯ จะแสดงความรับผิดชอบต่ออุปกรณ์ดิจิตัลส่องออกมากขึ้น เนื่องจากสินค้าเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ มักกลายเป็นเครื่องมือละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศอื่นๆ
เมื่อวันพฤหัสบดี ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐฯ จะใช้งบไม่เกิน 424 ล้านดอลลาร์ในโครงการต่างๆทั่วโลกเพื่อสนับสนุนสื่ออิสระ การต่อต้านการทุจริต และด้านอื่นๆ
ปธน. ไบเดนให้ความสำคัญต่อการจัดประชุมสุดยอดออนไลน์ครั้งนี้ในช่วงปีแรกของการบริหาร โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการให้การประชุมครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของประเทศที่เข้าร่วม 110 ประเทศ ให้ร่วมมือกันใน “ช่วงยากลำบาก” ของประชาธิปไตย โดยผู้นำสหรัฐฯ ต้องการจัดประชุมติดตามผลอีกครั้งในปีหน้า
ปธน. ไบเดนกล่าวว่า ประชาธิปไตยกำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก และเรียกร้องให้ผู้นำทั่วโลกร่วมมือกับเขาเพื่อกู้สถานการณ์ที่เขาระบุว่าเป็น “การถอยหลังอย่างรวดเร็ว” ของประชาธิปไตยทั่วโลก
ผู้นำสหรัฐฯ ไม่ได้กล่าวถึงชื่อประเทศจีนหรือรัสเซียขณะกล่าวเปิดการประชุม แต่เขากล่าวหลายครั้งว่า สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรต้องแสดงให้โลกเห็นว่า ประชาธิปไตยเป็นระบอบที่ดีต่อสังคมมากกว่าระบอบเผด็จการ และเป็นหลักการหลักของนโยบายต่างประเทศของ ปธน. ไบเดน ที่เขาประกาศว่า จะให้ความสำคัญต่อต่างประเทศมากกว่านโยบาย “อเมริกา มาก่อน” หรือ “America First ” ของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยกผลประโยชน์เเห่งชาติ โดยเฉพาะเศรษฐกิจเป็นเหตุผลหลักในการดำเนินความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ
ปธน. ไบเดนยังเน้นด้วยว่า แม้แต่ในประเทศที่มีประชาธิปไตยมายาวนานอย่างสหรัฐฯ ก็ยังเผชิญกับความท้าทายในการรักษาประชาธิปไตยเช่นกัน
การประชุมครั้งนี้ถูกโจมตีโดยประเทศคู่แข่งสหรัฐฯ และประเทศที่ไม่ได้รับเชิญ โดยทูตจีนและรัสเซียประจำสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ร่วม โจมตีรัฐบาลสหรัฐฯ ว่า แสดง “แนวคิดยุคสงครามเย็น” ที่จะ “จุดชนวนการเผชิญหน้าทางอุดมการณ์และความแตกแยกในโลก” นอกจากนี้ ยังมีคำถามด้วยว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ใช้หลักการใดในการเชิญประเทศต่างๆ
ผู้นำประเทศอื่นๆ ที่เข้าร่วมประชุมออนไลน์ครั้งนี้ กล่าวถึงสถานะของประชาธิปไตย และเน้นถึงผลกระทบของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่มีผลต่อประเทศ ผู้นำเหล่านี้ยังกล่าวถึงการใช้ข้อมูลเท็จเพื่อโจมตีสถาบันและการเลือกตั้งมากขึ้น
ทั้งนี้ การประชุมครั้งนี้มีขึ้นขณะที่ผู้นำสหรัฐฯ กดดันให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เปลี่ยนใจ หลังมีการระดมพลใกล้ชายแดนยูเครน จนทำให้ยูเครน สหรัฐฯ และชาติตะวันตกเกิดความกังวล โดย ปธน. ไบเดนเตือนผู้นำรัสเซียว่า หากรัสเซียรุกรานยูเครน อาจเกิด “ผลกระทบที่ร้ายแรง” ได้
ที่มา: สำนักข่าว Associated Press