Tinazsha Johnson ต้องพบกับเหตุการณ์ที่เศร้าสลดและความกดดันมากมายในชีวิตเยาว์วัยของเธอ
เมื่อสองปีที่แล้ว Tinazsha เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่หกที่โรงเรียนใหม่ ในขณะที่เธอกำลังเศร้าโศกกับการเสียชีวิตของแม่ ส่วนพ่อของเธอก็เข้าๆ ออกๆ คุกเป็นว่าเล่น
Tinazsha ต้องพบเห็นความรุนแรงใกล้ๆ กับที่บ้านของเธอในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมรี่แลนด์ นอกจากนี้เธอยังรู้สึกกดดันที่ต้องช่วยปู่ย่าตายายเลี้ยงน้องๆ
ปัจจุบันการใช้ชีวิตในแต่ละวันของเธอยังคงเป็นเรื่องยาก แต่หลังจากใช้เวลาสองปีในโรงเรียนใหม่ที่ให้การเยียวยาผู้ที่ได้รับความบอบช้ำทางจิตใจ เธอได้เรียนรู้วิธีควบคุมผลกระทบจากความกดดันและความเศร้าโศก
Tinazsha เล่าว่ าเธอมักจะตบตีทะเลาะเบาะแว้งกับผู้คนอยู่เสมอ แต่ในปีที่แล้วเธอทำตัวดีขึ้นมาก เพราะได้เรียนรู้วิธีการควบคุมความโกรธของหลายๆ วิธี และพยายามคิดบวกให้ผ่านไปได้
โรงเรียน New Song Community Learning Center ที่อยู่ทางตะวันตกของบัลติมอร์ เปิดเรียนตลอดทั้งปี ซึ่งไม่เหมือนโรงเรียนอื่นๆ ในสหรัฐ
Tinazsha กล่าวว่า โรงเรียนนี้กลายเป็นสถานที่คุ้มภัยของเธอจากถนนสายต่างๆ ที่มีชื่อของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อที่ถูกยิงด้วยอาวุธปืนพ่นอยู่ตามกำแพง เมื่อเร็วๆ นี้ โรงเรียนในบัลติมอร์ได้จัดพิธีรำลึกถึงนักเรียนที่ถูกยิงในปีการศึกษานี้
ที่เมืองบัลติมอร์และเมืองอื่นๆ ในสหรัฐฯ ที่มีอัตราการก่ออาชญากรรมสูง เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนได้ตระหนักว่า การบอบช้ำทางใจที่มีระยะเวลายาวนานในวัยเด็กส่งผลกระทบต่อการพัฒนาสมอง ซึ่งอาจทำให้เสี่ยงต่อการมีปัญหาสุขภาพร่างกายและปัญหาทางพฤติกรรมได้ในอนาคต เมื่อเด็กเหล่านี้กลายเป็นผู้ใหญ่
เจ้าหน้าที่รับมือกับปัญหานี้ด้วยการตั้งโรงเรียนที่ช่วยเยียวยาผู้ที่ได้รับความบอบช้ำทั้งทางกายและทางใจ ทั้งในเมืองใหญ่ เช่น ชิคาโก และซานฟรานซิสโก และเมืองขนาดกลางอื่นๆ
โรงเรียนดังกล่าวเกิดขึ้นได้ส่วนหนึ่งมาจากเงินของรัฐบาลกลาง ซึ่งโรงเรียนสามารถช่วยได้เฉพาะบางคนที่มีความจำเป็นจริงๆ เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในปีการศึกษาหน้า บัลติมอร์จะจัดให้มีนักสังคมสงเคราะห์อยู่ประจำเต็มเวลาในทุกโรงเรียน และยังสร้างสถานสงบจิตใจสำหรับนักเรียนที่ไม่ได้อยู่ในศูนย์เยียวยาอีกด้วย
Patrick Sharkey นักสังคมวิทยาที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ กล่าวว่า เด็กๆ หลายคนต้องไปโรงเรียนทั้งที่แบกรับเอาความรุนแรงไปด้วย ทำให้พวกเขาไม่สามารถนอนหลับสนิท หรือแม้แต่คิดให้กระจ่างได้ ดังนั้นโปรแกรมเช่นนี้จะสามารถช่วยเด็กๆ เหล่านั้นได้
เขากล่าวเสริมด้วยว่า การตระหนักรู้ว่าวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการพัฒนาสมรรถภาพของโรงเรียน คือการหาทางรับมือกับปัญหาความรุนแรงในชุมชน เป็นเรื่องที่สำคัญ