ตำรวจออสเตรียตามล่าผู้ร่วมก่อเหตุกราดยิงกลางกรุงเวียนนาอย่างน้อยอีกหนึ่งคน สืบเนื่องจากเหตุกราดยิงในพื้นที่หกจุดในกรุงเวียนนา ทำให้มีผู้เสียชีวิตสี่คน และได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 15 คน
เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าผู้ก่อเหตุครั้งนี้มี่ทั้งหมดกี่คน โดยเหตุสลดดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ทางการออสเตรียจะบังคับใช้มาตรการปิดเมืองเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ชาวกรุงเวียนนาออกมาใช้บริการตามบาร์และร้านอาหารเป็นจำนวนมากก่อนที่จะมีการจำกัดบริเวณ
พยานระบุว่า เขาเข้าใจว่ามีมือปืนหลายคนกราดยิงเข้าไปในบาร์และร้านอาหารรอบจัตุรัสชเวเดนพลัทซ์ วิดีโอที่เผยแพร่โดยพยานคนหนึ่ง เผยให้เห็นถึงมือปืนใส่ชุดวอร์มสีขาว ใช้ปืนกลยิงชายคนหนึ่งหลายนัดก่อนจะกลับมาใช้ปืนสั้นยิงเขาอีกครั้ง
ผู้เห็นเหตุการณ์บอกกับสำนักข่าว ORF ว่า เขาได้ยินเสียงปืนนัดแรกใกล้โบสถ์ยิวกลางกรุงเวียนนาเมื่่อเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนมือปืนจะใช้ปืนกลกราดยิง พยานอีกคนกล่าวว่าเขาได้ยินเสียงปืนอย่างน้อย 50 นัด ก่อนที่ตำรวจจะเข้ามาดูแลสถานการณ์และบอกให้ผู้คนตามร้านอาหารอยู่ภายในตัวอาคาร หน่วยคอมมานโดพิเศษของกองทัพออสเตรียยังเข้าควบคุมสถานการณ์อีกด้วย
ตำรวจยิงผู้ต้องสงสัยเสียชีวิตหนึ่งคนหลังเขาก่อเหตุได้เก้านาที โดยคาร์ล นีแฮมเมอร์ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยออสเตรีย ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าวชื่อคุทจิม เฟจซูไล ผู้สนับสนุนกลุ่มไอเอสชาวออสเตรีย-มาซีโดเนีย อายุ 20 ปี เขาเคยถูกจับข้อหาก่อการร้ายเพราะเคยพยายามเดินทางไปซีเรียเพื่อเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอส โดยเขาถูกตัดสินจำคุก 22 เดือนเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว แต่ก็ถูกปล่อยตัวเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
เซบาสเตียน เคิร์ซ นายกรัฐมนตรีออสเตรีย ระบุว่า แม้จะมีผู้ก่อการร้ายแน่นอนอย่างน้อยหนึ่งคน แต่เจ้าหน้าที่ก็กำลังสอบสวนว่ามีเครือข่ายสนับสนุนอยู่เบื้องหลังเขาหรือไม่
ทางด้านกลุ่มไอเอสก็อ้างว่าตนอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีดังกล่าว โดยเผยแพร่คลิปวิดีโอยาว 44 วินาทีของนายเฟจซูไลขณะสาบานตนต่ออาบู อิบราฮิม อัลฮาชิมี อัลกูเรชี ผู้นำกลุ่มไอเอส
หลังมีการเผยแพร่คลิปดังกล่าวเพียงไม่กี่ชั่วโมง ตำรวจสวิตเซอร์แลนด์ระบุว่า ได้จับกุมบุคคลสองคน อายุ 18 ปี และ 24 ปี ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุก่อการร้ายในกรุงเวียนนา โดยตำรวจสวิสร่วมมือกับทางการออสเตรียจับผู้ต้องสงสัยที่เมืองวินเทอร์ทัวร์์ในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นเมืองที่ตำรวจได้จับกุมผู้หาสมาชิกเข้ากลุ่มไอเอสได้เมื่อเดือนที่แล้ว และเมื่อวันอังคาร ตำรวจออสเตรียยังจับกุมผู้ต้องสงสัยอีกสองคนใกล้กรุงเวียนนา
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของออสเตรียและประเทศเพื่อนบ้านกำลังตรวจสอบว่าผู้ต้องสงสัยแต่ละคนมีส่วนเชื่อมโยงกันอย่างไร โดยนายกรัฐมนตรีเคิร์ซกล่าวกับสำนักข่าว ORF ว่า ผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืนกลครบคันและเตรียมการมาเป็นอย่างดี
ก่อนที่จะเกิดเหตุกราดยิงดังกล่าว ออสเตรียนับว่าเป็นประเทศยุโรปที่มักไม่ตกเป็นเป้าของการโจมตีเหมือนประเทศอื่นๆ เช่น เยอรมนี อังกฤษและฝรั่งเศส เหตุก่อการร้ายระลอกใหม่นี้จึงส่งสัญญาณเตือนให้หน่วยงานความมั่นคงในยุโรปรับมือกับภัยก่อการร้ายโดยชาวต่างชาติหรือผู้ที่ได้รับอิทธิพลจากกลุ่มก่อการร้ายต่างชาติ
โอลิเวียร์ กูอิตตา ผู้เชี่ยวชาญด้านการรับมือภัยก่อการร้าย ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ทั้งการก่อการร้ายทั้งในกรุงเวียนนา และการโจมตีโบสถ์ในเมืองนีซของฝรั่งเศสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกิดขึ้นก่อนที่รัฐบาลจะประกาศปิดเมืองเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ การก่อการร้ายญิฮาดตั้งแต่ปีค.ศ. 2016 มักกระทำโดยผู้ก่อการร้ายที่ลงมือเพียงลำพัง ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงเคยให้ความเห็นว่า กลุ่มไอเอสอาจไม่สามารถวางแผนกราดยิงทั่วยุโรปได้อีกต่อไป อย่างไรก็ตาม หากเหตุกราดยิงในออสเตรียเป็นฝีมือของกลุ่มไอเอสจริง ก็อาจเป็นการส่งสัญญาณเปลี่ยนแปลงที่อันตรายได้
คาดว่าชาวออสเตรียกว่า 300 คนเดินทางไปร่วมรบกับนักรบไอเอสในซีเรีย โดยมีชาวออสเตรียราว 100 คนได้เดินทางกลับประเทศ โดยส่วนใหญ่พวกเขาเป็นชาวออสเตรียรุ่นที่สอง ที่พ่อแม่อพยพมาจากสาธารณรัฐเชเชนในรัสเซีย ตุรกี หรือแถบคาบสมุทรบอลข่าน