ในภาพยนตร์เรื่อง Crocodile Dundee ที่ออกฉายเมื่อปี 1986 และเล่าเรื่องราวของนักล่าจระเข้มือเปล่า ซึ่งทำรายได้อย่างมหาศาลและติดอันดับกลุ่มหนังทำเงินสูงสุดของประเทศออสเตรเลีย หนึ่งในฉากหลังของภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำในดินแดน Northern Territory ของทวีปนี้ซึ่งในปัจจุบันกำลังเผชิญกับจำนวนประชากรจระเข้ที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ก่อนหน้านี้ ภาครัฐของออสเตรเลียอนุญาตให้ทำการล่าจระเข้ได้อย่างอิสระจนพวกมันเกือบที่จะสูญพันธ์ แต่ในปี 1970 มีการออกกฎเพื่ออนุรักษ์ หลังจากนั้นจำนวนของจระเข้ก็เพิ่มมากขึ้นในช่วงครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา
จระเข้เป็นเสมือน “สัญลักษณ์” และสัตว์ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของดินแดน Northern Territory โดยบริเวณนี้ มีอัตราส่วนของจระเข้น้ำเค็มต่อประชากรมนุษย์สูงที่สุดในโลก แต่พวกมันกำลังส่งผลกระทบด้านความปลอดภัยต่อประชาชนประมาณ 250,000 คนที่อาศัยในพื้นที่ด้วย
หนึ่งในเหตุการณ์น่าสลดใจ เกิดขึ้นในปี 2009 ที่เมืองดาร์วิน (Darwin) เมืองหลวงของดินแดนข้างต้น เมื่อ ไบรโอนี ลูกสาววัย 11 ปี ของชาร์ลีน โอซัลลิแวน เสียชีวิตจากการจู่โจมของจระเข้ ขณะที่ว่ายน้ำเล่นกับเพื่อน
โอซัลลิแวน เล่าว่า จากคำบอกเล่าของเด็ก ๆ ในเหตุการณ์นี้ ลูกสาวของเธอกระโดดลงน้ำ โดยลงไปบนจระเข้ที่นอนอยู่ข้างใต้ และทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยไบรโอนีโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำได้แว่บเดียวก่อนจะถูกลากหายไป
ภายหลังเหตุสะเทือนใจดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบเศษกระดูกของเด็กสาวจำนวนเพียงสองชิ้นและได้ส่งมอบให้กับคุณแม่เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาและใช้ฝังแทนร่างของลูกสาว
แม้เหตุการณ์ดังกล่าวจะผ่านมาแล้วราว 15 ปี แต่บาดแผลด้านจิตใจยังคงสร้างความบอบช้ำให้กับผู้เป็นแม่อยู่เสมอ
โอซัลลิแวนให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ทั้งน้ำตาว่า “หัวใจของฉันแตกสลาย ฉันไม่ได้เฝ้าดูลูกสาวเติบโต วันเสาร์หน้าจะเป็นวันคล้ายวันเกิดของไบรโอนี ความเจ็บปวดก็ยังคงอยู่”
โอซัลลิแวนยอมรับว่าในอดีต ต้องการที่จะกำจัดจระเข้ทั้งหมดออกจากพื้นที่ แต่หลังจากนั้นหลายปี เธอหันมาดำเนินธุรกิจฟาร์มจระเข้ซึ่งทำให้เข้าใจธรรมชาติของสัตว์นักล่าเหล่านี้มากขึ้น
ทั้งนี้ มุมมองของโอซัลลิแวนได้เปลี่ยนไป และตอนนี้เธอไม่โทษจระเข้แม้แต่น้อยที่ทำให้ลูกสาวเธอเสียชีวิต พร้อมย้ำว่า พวกมันคือสัตว์ที่อาศัยอยู่ในน้ำ ลูกสาวของเธอไปอยู่ตรงนั้นและจระเข้ก็ทำไปตามสัญชาติญาณ
ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา รัฐบาลออสเตรเลียได้เปิดตัวโครงการใหม่ที่มีแผนดำเนินงานเป็นระยะเวลา 10 ปี และมีจุดประสงค์เพื่อจัดการกับจำนวนจระเข้ในพื้นที่ เป็นการช่วยรักษาสมดุล เพิ่มความยั่งยืนของอุตสาหกรรมฟาร์มจระข้ และมอบความปลอดภัยให้กับประชาชน
โทนี บลูมส์ เจ้าของธุรกิจล่องเรือชมจระเข้ ริมแม่น้ำแอดิเลด (Adelaide) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองดาร์วิน ซึ่งดำเนินกิจการมาแล้วนาน 40 ปี บอกว่า การพานักท่องเที่ยวมาชมจระเข้ในหนองน้ำอย่างใกล้ชิด เป็นเสมือนการเรียนรู้ภาคสนามของจริง ผู้คนจะได้เห็นว่าจระเข้ทำอะไรได้บ้าง แต่เขาก็เตือนทิ้งท้ายว่า “ถ้าไม่ใช่สระว่ายน้ำ ก็อย่าลงไปเล่นน้ำในนั้น”
อ้างอิงจากเว็บไซต์ “ครอคแอทแทค” (CrocAttack) ฐานข้อมูลที่รวบรวมการโจมตีของจระเข้ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ระบุว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2023 มีชาวออสเตรเลียถูกจระเข้ฆ่าตายไปแล้ว จำนวนอย่างน้อย 5 ราย
- ที่มา: รอยเตอร์
กระดานความเห็น