เจ้าหน้าที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ ของออสเตรเลีย เปิดเผยว่า โรคระบาดจากหนูที่คุกคามชาวนาในรัฐนี้มาเป็นเวลาหลายเดือนได้ส่งผลให้ต้องมีการสั่งอพยพผู้ต้องขังนับร้อยในเรือนจำที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลแห่งหนึ่งแล้ว
ปีเตอร์ เซเวริน ผู้บัญชาการสำนักงานราชทัณฑ์นิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า กองทัพหนูได้สร้างความเสียหายให้แก่โครงสร้างศูนย์ราชทัณฑ์เวลลิงตันอย่างมาก ด้วยการแกะแทะสายไฟและฝ้าเพดานของอาคารทั้งหมด
เซเวริน กล่าวด้วยว่า ได้มีการเตรียมเคลื่อนย้ายผู้ต้องขังจำนวน 420 คน และเจ้าหน้าที่อีก 200 คน ออกจากเรือนจำดังกล่าว ไปยังพื้นที่คุมขังอื่นๆ ในช่วง 2-3 สัปดาห์แล้ว
ทั้งนี้ ศูนย์ราชทัณฑ์เวลลิงตัน ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลซึ่งประสบปัญหาการระบาดของหนูเป็นเวลาหลายเดือน หลังเกิดสภาวะฝนตกหนักที่เข้ามาช่วยผ่อนคลายวิกฤตแล้งที่รุนแรงที่สุดของประเทศในรอบ 50 ปี
อย่างไรก็ตาม ฝนที่กระหน่ำลงมาไม่ได้ช่วยให้ผลผลิตทางการเกษตรงอกงามและออกดอกออกผลเป็นประวัติการณ์เท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ของอาหารสำหรับประชากรหนูที่ขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วด้วย
สื่อออสเตรเลียรายงานว่า โดยเฉลี่ยแล้วใน 1 ฤดูกาล หนูเพียง 1 คู่ สามารถออกลูกได้ถึง 500 ตัวเลยทีเดียว
กองทัพหนูที่ขยายตัวอย่างมากนี้ได้สร้างความเสียหายแก่ผลผลิตทางการเกษตรเป็นมูลค่าถึงหลายล้านดอลลาร์ จนทำให้ เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลออสเตรเลียต้องออกมาเสนอให้เกษตรกรใช้สารเคมีกำจัดหนูขั้นรุนแรงที่ชื่อ โบรมาดิโอโลน (Bromadiolone) รวมทั้งยาเบื่อหนูที่จริงๆ แล้วถูกสั่งห้ามใช้ในประเทศอยู่ ขณที่ เกษตรกรและนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมบางส่วนออกมาเตือนว่า การใช้สารเคมีดังกล่าวอาจนำมาซึ่งผลกระทบที่ไม่พึงปรารถนาต่อสัตว์พื้นเมืองได้
สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า หนูน่าจะเข้ามาในออสเตรเลียพร้อมๆ กับผู้อพยพจากยุโรปชุดแรก และสามารถปรับตัวได้อย่างดีแม้ในสภาพอากาศที่โหดร้ายของทวีปนี้ จนกระทั่งพบน้ำและอาหาร แล้วจึงขยายพันธุ์ต่ออย่างรวดเร็ว
