เมื่อวันพุธ ทางการรัฐนิวเซาธ์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เปิดเผยว่ามีผู้ติดเชื้อใหม่ในนครซิดนีย์เพิ่มขึ้น 233 คน มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นสองคน เป็นหญิงในช่วงวัย 80-89 ปีหนึ่งคน และชายวัย 20-29 ปีอีกหนึ่งคนซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ที่อายุน้อยที่สุดในออสเตรเลีย
ชายคนดังกล่าวกักตัวอยู่ในบ้านพักของเขาในนครซิดนีย์เป็นเวลา 13 วัน ก่อนที่อาการของเขาจะทรุดลงอย่างฉับพลันและเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยนางกลาดีส เบเรจิเกลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาธ์เวลส์ ระบุว่า การเสียชีวิตของชายวัย 20 กว่าปีผู้นี้แสดงให้เห็นว่าโรคโควิด-19 เป็นอันตรายถึงชีวิตได้กับคนในทุกช่วงวัยอายุ
การระบาดระลอกนี้เริ่มขึ้นนับตั้งแต่คนขับรถลิมูซีนของสนามบินในนครซิดนีย์ ที่ถูกตรวจพบเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาหลังขับรถส่งลูกเรือของสายการบินต่างประเทศเมื่อปลายเดือนมิถุนายน มีผู้เสียชีวิตจากการระบาดระลอกนี้อย่างน้อย 16 คน โดยนครซิดนีย์ ซึ่งมีประชากร 5 ล้านคน ยังคงถูกล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดจนถึงวันที่ 28 สิงหาคม
ที่ผ่านมา ออสเตรเลียประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดของไวรัสจากการล็อกดาวน์อย่างจริงจัง ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์ ระบุว่า ออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 35,089 คน และมีผู้เสียชีวิต 927 คน
อย่างไรก็ตาม ออสเตรเลียเผชิญความท้าทายต่อการระบาดระลอกใหม่ เนื่องจากอัตราการฉีดวัคซีนที่ล่าช้า โดยมีประชากรเพียง 15 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว
จีนตรวจไวรัสคนทั้งเมืองอู่ฮั่น
ทางการจีนประกาศว่า ประชากรทั้งหมด 11 ล้านคนในเมืองอู่ฮั่นจะต้องถูกตรวจหาเชื้อไวรัส หลังจากจีนเผชิญการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาทั่วประเทศ โดยมีเมืองกว่า 35 เมืองที่พบผู้ติดเชื้อแล้ว และผู้ติดเชื้อในเมืองอู่ฮั่นเพิ่มขึ้นสามคนเมื่อวันจันทร์
การระบาดระลอกใหม่นี้มีต้นกำเนิดจากมณฑลเจียงซู โดยทางการจีนระบุว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาเริ่มระบาดจากสนามบินในเมืองหนานจิง เมืองหลวงของมณฑลเจียงซู เมื่อปลายเดือนที่แล้ว
นับแต่นั้นมา ทางการจีนได้ระงับเที่ยวบินในประเทศทั้งหมดจากเมืองหนานจิงและเมืองหยางโจวซึ่งอยู่ใกล้เคียงกัน โดยการระบาดในเมืองหยางโจวเริ่มมาจากผู้โดยสารที่เดินทางข้ามพรมแดนมาจากเมียนมา
ข้อมูลล่าสุดของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์ ระบุว่า มีผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสทั่วโลกแล้ว 199.5 ล้านคน รวมถึงมีผู้เสียชีวิต 4.2 ล้านคน โดยสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดที่ 35.2 ล้านคน ตามมาด้วยอินเดียที่มีผู้ติดเชื้อ 31.7 ล้านคน และบราซิลที่มีผู้ติดเชื้อ 19.9 ล้านคน
สหรัฐฯ ยังมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มากที่สุดที่ 614,295 คน ตามมาด้วยบราซิลที่ 558,432 คนและอินเดียที่ 425,757 คน
(ที่มา: เนื้อหาบางส่วนจากสำนักข่าวเอพี, สำนักข่าวเอเอฟพี และสำนักข่าวรอยเตอร์)