สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ออสเตรเลียไม่อนุญาตให้หญิงชาวเวียดนามวัย 45 ปี เดินทางเข้าประเทศ หลังจากที่เธอไม่แจ้งว่าเธอมีเนื้อหมูสด อาหารทะเล และเนื้อสัตว์ปีก รวม 10 กิโลกรัมอยู่ในกระเป๋าเดินทาง เมื่อเธอมาถึงเมืองซิดนีย์ ถือเป็นกรณีแรกที่ออสเตรเลียห้ามคนเข้าประเทศ หลังจากที่มีการยกระดับกฎหมายความปลอดภัยทางชีวภาพ
ออสเตรเลียเป็นประเทศที่เคร่งครัดเรื่องความปลอดภัยทางชีวภาพอยู่แล้ว แต่ได้มีการทำให้กฎเข้มงวดขึ้น หลังจากที่มีการระบาดของโรคอหิวาต์สุกรแอฟริกัน หรือ African Swine Fever จากเอเชียไปสู่ยุโรปตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้หมูทั่วโลกล้มตายไปแล้วกว่า 1 ใน 4 ของประชากรหมูทั้งหมด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรของออสเตรเลีย บริดเจต แมคคินซีย์ กล่าวว่า เธอไม่อยากจะเชื่อว่า ในช่วงที่มีการระบาดของโรคร้าย ผู้หญิงเวียดนามคนนี้จะจงใจนำเนื้อหมูสดข้ามพรมแดนเข้ามา แทนที่จะให้หญิงคนดังกล่าวจ่ายค่าปรับ เจ้าหน้าที่คนเข้าเมืองออสเตรเลียตัดสินใจส่งเธอกลับเวียดนาม
ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา ออสเตรเลียได้เข้มงวดกับการตรวจสัมภาระผู้โดยสารที่มาจากประเทศเบลเยียม สโลวาเกีย เซอร์เบีย และประเทศส่วนใหญ่ในเอเชีย เพื่อไม่ให้โรคอหิวาต์สุกรแอฟริกัน ระบาดเข้ามากระทบอุตสาหกรรมเนื้อหมูของประเทศ ซึ่งมีมูลค่า 3,650 ล้านดอลล่าร์
หมูที่ติดเชื้อโรคอหิวาต์สุกรแอฟริกันต้องเสียชีวิตทุกตัว เนื่องจากยังไม่มีวัคซีนรักษา โดยเชื้อไวรัสจากเนื้อหมูดิบสามารถระบาด จากการติดอยู่บนเสื้อผ้าและรองเท้าของคน ทางการออสเตรเลียรายงานว่าอาหารที่ผู้โดยสารนำเข้ามาและไม่ได้แจ้ง หรือเข้าช่องสำแดง มีร่องรอยของโรคอหิวาต์สุกรแอฟริกันอยู่ถึง 15 เปอร์เซ็นต์
