ชาติเอเชียเร่งรับมือโควิดระบาดรอบใหม่โดยไม่ใช้มาตรการล็อคดาวน์

หลายประเทศในเอเชียกำลังเผชิญกับการระบาดรอบใหม่ของเชื้อโคโรนาไวรัสในช่วงปลายปี ทำให้รัฐบาลต้องหาวิธีควบคุมมาใช้โดยที่ไม่ต้องปิดประเทศหรือปิดเมือง เพื่อไม่ให้กระทบกับเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว

ฮ่องกง ญี่ปุ่น ไต้หวัน มาเลเซีย เกาหลีใต้ และเวียดนาม รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอากาศที่หนาวเย็นทำให้เชื้อไวรัสมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น และการเดินทางไปมาหาสู่กันระหว่างญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงในช่วงปลายปี

สถาบันวิจัยโลวีย์ (Lowy Institute) ในออสเตรเลีย ระบุว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของประเทศต่าง ๆ ในเอเชียพยายามหาวิธีควบคุมการระบาดโดยอาศัยประสบการณ์จากความสำเร็จในการป้องกันการระบาดครั้งแรกเมื่อต้นปีนี้ เช่น การกักตัวผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อ การติดตามเส้นทางการติดเชื้อและแพร่เชื้อ การเพิ่มระยะห่างของผู้คนในที่สาธารณะ รวมทั้งการระงับการเดินทางของผู้คนจากประเทศที่มีการระบาดหนัก ซึ่งล้วนเป็นแนวทางที่เคยใช้ได้ผลมาแล้ว

ที่ไต้หวัน ศูนย์บัญชาการรับมือการระบาดใหญ่ประกาศให้ประชาชนทุกคนต้องสวมหน้ากากขณะอยู่ในห้างสรรพสินค้า โรงเรียนบางแห่ง และอาคารสันทนาการต่าง ๆ หลังจากพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเพิ่มขึ้นวันละกว่า 20 คนในเดือนธันวาคม ซึ่งรัฐบาลเชื่อว่าเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ

ที่มาเลเซีย จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในระดับมากกว่า 1,000 รายต่อวันตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน และขณะนี้รัฐบาลกำลังผลักดันให้มีมาตรการช่วยเหลือทางการเงินชุดใหม่แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาด

ส่วนที่ญี่ปุ่น มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในระดับ 2,000 - 2,500 คนต่อวัน รัฐบาลนำมาตรการตรวจสอบเส้นทางการแพร่เชื้อเพื่อแจ้งบุคคลที่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อให้กักตัว ซึ่งได้รับการปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เช่นเดียวกับที่เกาหลีใต้ซึ่งพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในระดับ 500 คนต่อวัน รัฐบาลก็กำลังนำมาตรการเพิ่มการเว้นระยะห่างทางสังคมมาใช้เช่นกัน

และที่ฮ่องกง รัฐบาลประกาศปิดห้องเรียนชั้นประถมศึกษาชั่วคราว และจำกัดจำนวนลูกค้าในร้านอาหารต่าง ๆ หลังจากที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ราว 50 - 100 คนต่อวันตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน