จำนวนผู้ใช้บริการที่ลดลงของบริษัทสตรีมมิ่งยอมนิยมอย่างเน็ตฟลิกซ์ได้ส่งผลให้บริษัทเตรียมงัดกลยุทธ์เพื่อเพิ่มรายได้ เช่นเก็บเงินผู้แชร์บัญชีระหว่างกัน และการฉายโฆษณาระหว่างรับชมสตรีมมิ่ง
บริษัทสตรีมมิ่ง เน็ตฟลิกซ์ของสหรัฐฯ ระบุเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า จำนวนสมาชิกได้ลดลงถึง 200,000 คนในไตรมาสแรกของปีและคาดการณ์ว่าผู้ใช้บริการจะหายไปเพิ่มอีก 2 ล้านคนภายสิ้นเดือนมิถุนายนนี้
เน็ตฟลิกซ์จึงเตรียมหาช่องทางเพิ่มรายได้โดยการเรียกเก็บเงินเพิ่มจากกลุ่มผู้ใช้บริการที่ให้เพื่อนยืมบัญชีใช้ และการฉายโฆษณาระหว่างรับชมสตรีมมิ่ง
คำประกาศข้างต้นส่งผลให้ราคาหุ้นดิ่งลง 35% เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี นอกจากนี้ ตั้งแต่ปลายปี 2021 หุ้นของเน็ตฟลิกซ์ได้สูญเสียมูลค่าทางตลาดถึง 62% และลดความร่ำรวยของผู้ถือหุ้นในบริษัทดังกล่าวถึง 167,000 ล้านดอลลาร์
ทางบริษัทสตรีมมิ่งชื่อดังประเมินว่ามีลูกค้า 100 ล้านหลังคาเรือนทั่วโลกกำลังใช้บริการเน็ตฟลิกซ์โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ รีด เฮสติงส์ ซีอีโอร่วมของเน็ตฟลิกซ์จึงกล่าวกับผู้ถือหุ้นเมื่ออังคารที่ผ่านมาว่า “เราจะต้องได้รับค่าตอบแทนในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งจากผู้ใช้ (ที่ไม่ยอมเสียค่าบริการ) เหล่านี้”
การเรียกเก็บค่าบริการเพิ่มจากกลุ่มผู้ใช้ประเภทดังกล่าวได้เริ่มขึ้นแล้วในประเทศแถบละตินอเมริกา เช่นในคอสตาริก้า ค่าบริการนั้นเริ่มตั้งแต่ 9 ถึง 15 ดอลลาร์ต่อเดือน และสมาชิกปัจจุบันสามารถสร้างบัญชีย่อยให้แก่เพื่อนที่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันและต้องการร่วมใช้บริการด้วยได้อีก 2 คนผ่านการเพิ่มเงิน 3 ดอลลาร์ต่อเดือน เน็ตฟลิกซ์ชี้ต่อว่า วิธีดังกล่าวอาจจะถูกนำมาใช้ในประเทศอื่นๆในอนาคต
อีกวิธีที่เน็ตฟลิกซ์เสนอเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม คือ การฉายโฆษณา
คริสโตเฟอร์ ฮามิลตัน อาจารย์ผู้ศึกษาบริการสตรีมมิ่งแห่ง Syracuse University กล่าวว่า เน็ตฟลิกซ์จำต้องใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้กำไรเติบโต ตามเป้าของผู้ถือหุ้น เขาเชื่อว่า การฉายโฆษณาสำหรับกลุ่มผู้ใช้เน็ตฟลิกซ์ในแพ็กเกจแบบประหยัดอาจเป็นทางออกที่ดีในกลุ่มลูกค้าที่ต้องการลดค่าใช้จ่าย ตราบใดที่ลูกค้าอีกกลุ่มที่ไม่ต้องการรับชมโฆษณาพร้อมที่จะควักกระเป๋าเพิ่มเพี่อใช้บริการต่อ
บริษัทที่ปรึกษา Accenture ประเมินว่า รายได้ของธุรกิจสตรีมมิ่งจากการฉายโฆษณาในอีกห้าปีข้างหน้าจะพุ่งสูงกว่ารายได้ที่ได้จากเรียกเก็บค่าบริการของสมาชิก โดยในปี 2027 เม็ดเงินที่ได้จากโฆษณาของธุรกิจบนวิดีโอสตรีมมิ่งต่างๆทั้งหมดน่าจะมีมูลค่ามากถึง 21,000 ล้านดอลลาร์ ต่างจากสิบปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 1,000 ล้านดอลลาร์เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เฮสติงส์ ซีอีโอร่วมของเน็ตฟลิกซ์กล่าวหลายครั้งในอดีตว่าเขาไม่อยากให้เน็ตฟลิกซ์มีโฆษณาเพราะขัดต่ออรรถรสในการรับชม ทั้งนี้ ผู้บริหารผู้นี้อาจไม่มีทางเลือกมาก เนื่องจากสภาพตลาดของธุรกิจสตรีมมิ่งได้เปลี่ยนไปมาก
สำนักข่าวเอพีด้วยระบุว่า ปัจจุบัน เน็ตฟลิกซ์มีคู่แข่งกระเป๋าหนักอย่าง Apple, Walt Disney และ HBO ที่มาแย่งฐานลูกค้าไป บวกกับสถานการณ์การระบาดของโควิดที่คลี่คลายลงยังทำให้ผู้คนมีตัวเลือกมากขึ้นในการใช้เวลาว่าง และอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นยังทำให้ผู้ใช้บริการบางส่วนลดค่าจ่ายของตนด้วยการตัดการดูสตรีมมิ่งออกไป
ผู้ใช้บริการเน็ตฟลิกซ์ผู้หนึ่งบอกกับสำนักข่าวเอพีว่า พร้อมที่จะยกเลิกบริการหากเน็ตฟลิกซ์ขึ้นราคาเพราะเขาไม่รู้สึกคุ้มค่ากับการจ่ายเงิน 15 ดอลลาร์ต่อเดือนเพื่อให้คนๆเดียวสามารถดูสตรีมมิ่งได้ตลอดเวลา ส่วนผู้ใช้บริการอีกคนยืนกรานว่า เขาไม่ต้องการดูโฆษณาใดๆทั้งสิ้น แต่บางคนที่เป็นแฟนคลับของเน็ตฟลิกซ์มานานกลับกล่าวว่า พร้อมที่จะจ่ายค่าบริการเพิ่มเพราะเขาและครอบครัวชื่นชอบเนื้อหาของสตรีมมิ่งยอดนิยม
อย่างไรก็ตาม รีด เฮสติงส์ ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะมาตรการใดจะถูกนำมาใช้ในการเพิ่มรายได้ให้กับบริษัท เขาพูดเพียงว่าจะมีการทดลองใช้วิธีต่างๆเพื่อดูความเหมาะสม โดยเมื่อปีที่ผ่านมา เน็ตฟลิกซ์มีการบังคับให้ผู้ใช้บริการยืนยันการใช้บัญชีผ่านอีเมล์หรือข้อความ ร่วมกับการเพิ่มบริการเล่นวิดีโอเกมส์ฟรีเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่
- ที่มา: เอพี