นักวิทยาศาสตร์ค้นพบสาเหตุว่า ทำไมผู้ที่ได้รับเชื้อไวรัช HIV บางคน จึงเป็นโรคเอดส์ช้ากว่าผู้ติดเชื้อรายอื่นๆ หรืออาจไม่เป็นเลย เหตุผลก็คือผู้ได้รับเชื้อเหล่านั้น มียีนชนิดหนึ่งที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน เชื้อไวรัสไม่ให้ลุกลาม ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า การค้นพบครั้งนี้อาจนำไปสู่วัคซีนโรคเอดส์ได้ในอนาคต
นักวิจัยระบุว่าประมาณ 1 ใน 200 หรือ 0.5% ของผู้ได้รับเชื้อไวรัส HIV คือผู้ที่มียีนชนิดหนึ่ง ที่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันเชื้อไวรัสไม่ให้ลุกลามได้ โดยกลุ่มผู้ติดเชื้อ ที่มียีนพิเศษซึ่งเรียกกันว่า Elite Controller นี้ แม้จะได้รับเชื้อ HIV มานานหลายสิบปี ก็จะเป็นโรคเอดส์ช้ากว่าผู้ติดเชื้อรายอื่นๆ หรืออาจไม่เป็นเลย ถึงจะไม่ได้ใช้ยาต้านเชื้อชนิดใดก็ตาม
นักวิจัยค้นพบว่ายีนที่เรียกว่า HLA-B57 สามารถสร้าง T เซลล์ หรือเซลล์เม็ดเลือดขาวจำนวนมาก ที่ช่วยในระบบภูมิคุ้มกันต่อต้านเชื้อไวรัส โดยจะเข้าไปแทรกในเซลล์ที่ถูกเชื้อไวรัส HIV ยึดกุมไว้ และช่วยจำกัดความเสียหาย ที่เกิดจากเชื้อไวรัสนั้น และ T เซลล์นี้ยังสามารถท่องไปในส่วนต่างๆ ของร่างกายเพื่อทำลายเซลล์อื่นๆ ที่ติดเชื้อ HIV ได้อีกด้วย
โดยในการวิจัยก่อนหน้านี้ นักวิจัยได้ค้นพบยีนอีกชนิดหนึ่งเรียกว่า HLA-B27 ซึ่งทำหน้าที่คล้ายกัน
จากการศึกษาผู้ติดเชื้อไวรัส HIV เกือบ 2,000 คนทั้งที่มีและไม่มียีน HLA ยืนยันว่า ผู้ติดเชื้อที่ไม่มียีนดังกล่าว จะไม่มีระบบภูมิคุ้มกันพิเศษนี้ และเป็นโรคเอดส์ได้รวดเร็วกว่า
จริงๆ แล้ว นักวิทยาศาตร์ค้นพบความแตกต่างดังกล่าว ของผู้ติดเชื้อที่มียีนพิเศษมาตั้งแต่สิบกว่าปีที่แล้ว และก็ได้พยายามค้นหา และระบุยีนที่ว่านี้เพื่อนำมาผลิตวัคซีนโรคเอดส์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายแพทย์ Bruce Walker นักวิจัยเรื่องโรคเอดส์แห่งมหาวิทยาลัย Harvard และ Massachusetts General Hospital ผู้ร่วมทำรายงานชิ้นนี้ชี้ถึงปัญหา ของการผลิตวัคซีนโรคเอดส์ว่า เชื้อไวรัส HIV นั้น เปรียบเสมือนเป้าหมายที่เคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังกลายพันธุ์อยู่เสมอ ทำให้ผู้ติดเชื้อมีสภาพร่างกายแย่ลง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การค้นพบว่ายีน HLA-B57 และ HLA-B27 ซึ่งมีคุณสมบัติควบคุมเชื้อไวรัส HIV ได้แม้ไวรัสนั้นจะกลายพันธุ์ในผู้ติดเชื้อบางคน ช่วยจุดประกายความหวังว่า วัคซีนโรคเอดส์อาจจะเกิดขึ้นได้จริงๆ
ด๊อกเตอร์ Walker เชื่อว่า การที่มีผู้ได้รับเชื้อไวรัส HIV บางคนสามารถควบคุมเชื้อ ไม่ให้ลุกลามได้สำเร็จเป็นเวลาหลายสิบปี เป็นสิ่งยืนยันว่าเชื้อไวรัสชนิดนี้ต้องถูกปราบได้ และโรคเอดส์ จะกลายเป็นโรคที่มีวัคซีนป้องกัน หรือสามารถรักษาให้หายได้ในอนาคต แต่นายแพทย์ผู้นี้กล่าวเตือนว่า อนาคตที่ว่านั้นยังไม่ใช่ในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน เพราะแพทย์ต้องใช้เวลาคิดค้นพัฒนาวัคซีนโรคเอดส์ อย่างน้อยก็อีก 10 ปี
รายงานเรื่องกระบวนการทางพันธุกรรม ที่มีผลในทางควบคุมหรือชะลอเชื้อไวรัส HIV ที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์นี้ ตีพิมพ์อยู่ในวารสาร Nature ฉบับสัปดาห์ที่แล้ว