แอปเปิล (Apple) และ ไมโครซอฟต์ (Microsoft) จับมือกับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ทั้ง เดลล์ (Dell) เอชพี (HP) อินเทล (Intel) โซนี (Sony) และนินเทนโด (Nintendo) ยื่นหนังสือต่อรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ให้ยกเว้นการขึ้นภาษีรอบใหม่ต่อสินค้าของบริษัทเหล่านี้ ซึ่งมีฐานการผลิตในประเทศจีน
เช่นเดียวกับทาง Consumer Technology Association ยื่นหนังสือต่อรัฐบาลสหรัฐฯ เรียกร้องให้บริษัทเทคโนโลยีที่ได้รับผลกระทบยื่นขอยกเว้นการขึ้นภาษีต่อสินค้าของบริษัท และว่าการขึ้นภาษีไม่ใช่หนทางที่ถูกต้องในการคลี่คลายความบาดหมางทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ซ้ำยังย้อนกลับมาทำร้ายภาคธุรกิจ แรงงาน และผู้บริโภคในอเมริกัน
ในถ้อยความในหนังสือต่อรัฐบาลสหรัฐฯ ทาง Apple ได้ระบุรายการสินค้าเกือบ 20 ชนิดที่ต้องการยกเว้นภาษี อาทิ iPhone, MacBook และ Apple TV โดยระบุว่า การปรับขึ้นภาษีมีผลกระทบต่อธุรกิจจะทำให้ Apple ขาดศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลก และส่งผลกระทบต่อสหรัฐฯ ในฐานะที่ Apple สร้างงานมากกว่า 2 ล้านตำแหน่งทั่วอเมริกา ขณะที่ไมโครซอฟต์, เดลล์, เอชพี และอินเทล ได้เรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกเว้นภาษีกับสินค้าจำพวกแลปทอปและแทปเล็ต ซึ่งการขึ้นภาษีจะทำให้ราคาแลปทอปเพิ่มขึ้นราว 120 ดอลลาร์
ที่ผ่านมาข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่รุนแรงขึ้น ทำให้บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง พยายามมองหาประเทศอื่น อย่างประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นฐานการผลิตใหม่แทนจีน แต่ถึงกระนั้นต้องใช้เวลาและการลงทุนมหาศาลในการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน
โดยมาตรการขึ้นภาษีรอบใหม่ของผู้นำสหรัฐฯ จะปรับขึ้นร้อยละ 25 ต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์ ครอบคลุมสินค้าหลากหลายประเภทที่ยังไม่เคยเก็บภาษีมาก่อน อาทิ เสื้อผ้า รองเท้า ปศุสัตว์ และยังรวมไปถึงคอมพิวเตอร์พกพา เครื่องเล่นวิดีโอเกม กล่องแบตเตอรี่ และสินค้าเทคโนโลยีหลายประเภท