แอปเปิล (Apple) ทุ่มงบประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 3.2 หมื่นล้านบาท เพื่อขยายสำนักงานย่อย หรือ แคมปัส ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส ในนครซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน, เมืองซานดิเอโก และคัลเวอร์ซิตี้ รัฐแคลิฟอร์เนีย และเตรียมขยายสำนักงานไปยังเมืองพิตส์เบิร์ก นิวยอร์ก และโคโลราโด ในอีก 3 ปีข้างหน้า
โดยแคมปัสแห่งใหม่ในเมืองออสติน เปิดรับพนักงานในหลายภาคส่วน ทั้งวิศวกร, นักวิจัยและพัฒนา, ฝ่ายปฏิบัติการ, ฝ่ายการเงิน, ฝ่ายขายและฝ่ายดูแลลูกค้า ซึ่งทาง Apple คาดว่าแคมปัสแห่งใหม่นี้ จะเพิ่มการจ้างงานในเมืองออสตินได้ราว 15,000 ตำแหน่ง ส่วนแคมปัสในอีก 3 เมืองจะเพิ่มการจ้างงานให้ได้ราวแห่งละ 1,000 ตำแหน่ง
การเพิ่มสำนักงานของ Apple ทั่วอเมริกานั้น เป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณลงทุน 30,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 960,000 แสนล้านบาทในอเมริกา ในระยะ 5 ปีข้างหน้า เพื่อเป็นการสร้างงานเพิ่มในประเทศ 20,000 ตำแหน่งในช่วงเวลาเดียวกัน
ขณะที่เมืองต่างๆในอเมริกา ต่างอ้าแขนรับบริษัทด้านเทคโนโลยีอย่าง Apple และ Amazon ให้เข้ามาเปิดสำนักงานในพื้นที่กันอย่างมาก เพราะจะเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพ ในกลุ่มแรงงานมีทักษะ ทั้งด้านวิศวกรรมศาสตร์ ด้านไอที และสาขาที่เกี่ยวข้อง ซึ่งล้วนเป็นสาขาอาชีพที่มีรายได้ 6 หลักกันทั้งสิ้น
อย่างพนักงานที่ทำงานในสำนักงานใหญ่ Apple ในคูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย มีรายได้รายปีเฉลี่ย 125,000 ดอลลาร์ หรือราว 4 ล้านบาทต่อปี นั่นคือได้เงินเดือนเฉลี่ย ตกเดือนละ 333,000 บาท