ลิ้งค์เชื่อมต่อ

องค์กรสิทธิ์ชี้ อิสราเอล "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ในกาซ่า


เด็ก ๆ ในเมืองคานยูนิสของกาซ่า 5 ธ.ค. 2024
เด็ก ๆ ในเมืองคานยูนิสของกาซ่า 5 ธ.ค. 2024

องค์กรสิทธิมนุษยชน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นเเนล ระบุในรายงานวันพฤหัสบดีว่า อิสราเอลก่อเหตุ "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ในกาซ่า โดยชี้ว่าทางการเทลอาวีฟและกองทัพอิสราเอลละเมิดอนุสัญญา ปี 1948 ที่สหประชาชาติสนับสนุนว่าด้วยเรื่องดังกล่าว

หลังจากนั้นอิสราเอล โต้กลับด้วยแถลงการณ์ที่ว่า รายงานฉบับนี้ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นเเนล "ผิดอย่างมหันต์และตั้งอยู่บนคำโกหก"

อิสราเอลระบุด้วยว่าแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นเเนล ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่อังกฤษเป็นองค์กรที่ "ตกต่ำและมีความคิดสุดขั้ว"

ทั้งนี้ อนุสัญญา Genocide Convention ปี 1948 ระบุว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ คือ "การกระทำที่มีตั้งใจที่จะทำลาย ทั้งหมดหรือบางส่วน ต่อกลุ่มศาสนา เผ่าพันธุ์ ชาติพันธุ์ และสัญชาติ"

รายงานความยาวเกือบ 300 หน้าของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นเเนล มาจากการเก็บข้อมูล 9 เดือน หลังวันที่ 7 ต.ค. ที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสโจมตีอิสราเอล ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1,200 รายและจับตัวประกันไปอีก 250 คน

จากนั้นปฏิบัติการโจมตีในกาซ่า คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์กว่า 44,500 คนโดยกว่าครึ่งหนึ่งเป็นผู้หญิงและเด็ก ตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขกาซ่า

อิสราเอลกล่าวว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์ มีนักรบฮามาสรวมอยู่ด้วยจำนวนหลายพันคน

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นเเนลกล่าวว่าข้อสรุปของรายงานเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นี้ มาจากการเก็บข้อมูลจากสถานที่จริงในกาซ่า และการศึกษาถ้อยแถลงและท่าทีของอิสราเอลที่ "บั่นทอนความเป็นมนุษย์และมีลักษณะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์"

องค์กรสิทธิมนุษยชนนี้บอกด้วยว่า การโจมตีทางอากาศ 15 ครั้งระหว่างเดือนตุลาคมปีที่เเล้วถึงเมษายนปีนี้ คร่าชีวิตพลเรือนไป 334 ราย ซึ่งรวมถึง เด็ก 141 คน

แอมเนสตี้ฯ ระบุว่า ไม่มีหลักฐานใดบ่งชี้ว่าการโจมตีเหล่านี้เจาะจงไปที่เป้าหมายด้านการทหาร

รายงานฉบับนี้กล่าวว่า การกระทำของอิสราเอลที่รวมไปถึงคำสั่งอพยพ ที่ทำให้ประชากรในกาซ่า 2.3 ล้านคนกลายเป็นคนพลัดถิ่น และกฎที่จำกัดการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ต่างพุ่งเป้าอย่างมีเจตนา ให้เกิดความเสียหายต่อชาวปาเลสไตน์ โดยให้พวกเขา "ตายอย่างช้า ๆ ตามแผนที่คิดคำนวณไว้"

เอกเนส คัลลามาร์ด เลขาธิการใหญ่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นเเนล กล่าวว่า รายงานชิ้นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาคมโลกตระหนักมากขึ้นว่าสิ่งที่ดำเนินอยู่ในกาซ่าคือ "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์"

คัลลามาร์ดกล่าเสริมว่า สหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักของอิสราเอล รวมทั้งชาติอื่น ๆ ที่ส่งอาวุธให้ทางการเทลอาวีฟ เสี่ยงต่อการเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดต่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลโพสต์บนเเพลตฟอร์ม X ว่ารายงานนี้เป็น "เท็จ" และว่าฝ่ายฮามาสต่างหากที่เป็นผู็ "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" เมื่อวันที่ 7 ต.ค.

กระทรวงฯ กล่าวว่า ตั้งเเต่นั้นเป็นต้นมา อิสราเอลทำการปกป้องตนเองจาก "การโจมตีรายวันจาก 7 ทิศทาง" ขณะที่ดำเนินการ “ที่เป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ”

อิสราเอลกล่าวว่านักรบฮามาสมักใช้ตึกอาคารบ้านเรือนประชาชนโรงเรียนและโรงพยาบาลเป็นที่ฉากหน้าของปฏิบัติการ

อย่างไรก็ตามฮามาสปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ และกล่าวหากองทัพอิสราเอลว่าโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมาย

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นเเนล กลายเป็นอีกหนึ่งเสียงบนเวทีโลกที่กล่าวหาอิสราเอลว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนในสงครามในกาซ่า

เมื่อเดือนที่เเล้ว ศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศ หรือ International Criminal Court ออกหมายจับนายกรัฐมนตรีอิสราเอลเบนจามิน เนทันยาฮู และอดีตรัฐมนตรีกลาโหมโยอาฟ กัลเเลนต์ ในข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ซึ่งเป็นข้อหาที่ถูกปฏิเสธ

เนทันยาฮูออกมาประณามการออกหมายจับครั้งนั้นว่า อิสราเอล "ปฏิเสธด้วยความรังเกียจต่อการกระทำที่น่าขันและไม่เป็นความจริง" ของไอซีซี

ทั้งนี้อิสราเอลไม่ได้เป็นสมาชิกไอซีซี และผู้ที่ถูกหมายจับทั้งสองไม่ได้จะถูกดำเนินคดีโดยทันที เเต่อาจมีความเสี่ยงหากเดินทางไปต่างประเทศ

  • ที่มา: ข้อมูลบางส่วนมาจากรอยเตอร์ เอพี และเอเอฟพี
XS
SM
MD
LG