บริษัทในสหรัฐฯ หลายร้อยแห่งออกมาตรการและวิธีต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้พนักงานชาวอเมริกันไปลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พฤศจิกายน นี้ ซึ่งเป็นวันอังคาร โดยบริษัทหลายแห่งยินยอมให้พนักงานลางานได้โดยยังได้รับเงินเดือน ขณะที่อีกหลายบริษัทช่วยพนักงานลงทะเบียนเลือกตั้ง ให้ส่วนลดค่าเดินทางไปยังคูหาเลือกตั้ง เป็นต้น
ผู้บริหารระดับสูงของพาทาโกเนีย บริษัทเสื้อผ้าและอุปกรณ์สำหรับกิจกรรมกลางแจ้งที่มีพนักงานในสหรัฐฯ ราว 2,000 คน ให้พนักงานลางานโดยได้รับเงินเดือนได้ในวันเลือกตั้ง โดยพาทาโกเนีย ยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Time to Vote ซึ่งเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดกับกลุ่มธุรกิจอีกเกือบ 600 แห่ง เช่น วอลมาร์ต ทาร์เก็ต เบสต์บาย รวมทั้ง ธุรกิจการเงินอย่างวีซ่า ดีลอยต์ เจพี มอร์แกน เชส และกลุ่มธุรกิจให้บริการด้านคมนาคม อย่าง อูเบอร์ ลิฟต์ ไปจนถึงสื่อสังคมออนไลน์อย่าง เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ โดย Time to Vote มีเป้าหมายที่จะเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ลงคะแนนเสียงในสหรัฐฯ
เมื่อเดือนมิถุนายน มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ผู้บริหารของเฟซบุ๊ค ระบุว่า เฟซบุ๊กจะช่วยให้คนกว่า 4 ล้านคนลงทะเบียนเลือกตั้ง ด้วยการให้ข้อมูลการลงทะเบียน การลงคะแนนผ่านทางไปรษณีย์ และการลงคะแนนล่วงหน้า ทางด้านอูเบอร์ก็เตรียมให้บริการทั้งอูเบอร์ และอูเบอร์อีท เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้คนไปลงคะแนนเสียงที่คูหา รวมทั้งให้บริการอาหารแก่ผู้คนที่ยืนรอเข้าคิวลงคะแนนด้วย
Vote.org กลุ่มองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรด้านการรณรงค์การใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ยังร่วมทำงานกับบริษัทเหล่านี้เพื่อช่วยสร้างนโยบายที่เอื้อต่อผู้ลงคะแนนเสียง ทั้งการลดข้อจำกัดด้านการทำงานที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง รวมทั้งสนับสนุนทั้งข้อมูลและทรัพยากรที่จำเป็นต่อการเลือกตั้งให้แก่ลูกจ้าง ซึ่งผู้ลงคะแนนราว 35 เปอร์เซ็นต์ เห็นว่าการติดธุระและงานเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขาไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง
ทาง Vote.org ยังหวังด้วยว่า การที่บริษัทเหล่านี้ใช้พื้นที่ทรัพยากรของตนเพื่อสร้างวัฒนธรรมการมีส่วนร่วมของพลเมือง จะช่วยให้ผู้ที่ไม่ไปลงคะแนนเสียงราว 100 ล้านคนในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ออกมาลงคะแนนเสียงกันมากขึ้น