สำนักข่าวเอพี เสนอรายงานไขข้อข้องใจเรื่องความสำคัญของป่าอเมซอนต่อสภาพอากาศโลก ท่ามกลางความกังวลเรื่องไฟที่กำลังลุกลามระบบนิเวศใหญ่แห่งนี้
ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือ การเปรียบเปรยว่า ป่าอเมซอน คือ "ปอดของโลก" นั้นถูกต้องหรือไม่?
นักวิชาการเรื่องสภาพอากาศ Carlos Nobre จากมหาวิทยาลัย Sao Paula กล่าวว่า การเปรียบเทียบนี้อาจไม่ตรงนัก เพราะอันที่จริง ป่าอเมซอน ทำหน้าที่คล้าย "อ่างล้างจาน" ของโลกมากกว่า
ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ ผืนป่าแห่งนี้ช่วยล้างและถ่ายทิ้งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากชั้นบรรยากาศ
ปัจจุบันโลกของเราปล่อยก๊าซดังกล่าวปริมาณ 4 หมื่นล้านตันต่อปี โดยร้อยละ 5 หรือ 2 พันล้านตันถูกดูดซับโดยป่าอเมซอน
อาจารย์ Carlos Nobre บอกด้วยว่าไฟไหม้ป่าครั้งนี้ นอกจากจะทำร้ายพื้นที่ขจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แล้ว ควันไฟยังเพิ่มการปล่อยก๊าซนี้สู่บรรยากาศโลกอีกด้วย
เขากล่าวว่าปัจจุบัน สภาพป่าใกล้จะเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงใหญ่ จากที่เคยเป็นพื้นที่ป่าซึ่งอุดมสมบูรณ์ มาเป็นทุ่งหญ้าเขตร้อน
อีกประการหนึ่ง เกิดคำถามที่ว่าเหตุการณ์นี้ทำให้ปริมาณออกซิเจนของโลกอยู่ในระดับอันตรายหรือไม่?
สำนักข่าวเอพีกล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น
นักวิทยาศาสตร์คิดว่าความเชื่อก่อนหน้านี้ที่ว่าป่าอเมซอนคือเเหล่งออกซิเจน 20 เปอร์เซ็นต์ของโลกนั้นไม่ตรงกับความเป็นจริง
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าป่าไม้รับปริมาณออกซิเจนไปพอๆกับที่ป่าผลิตออกมา เพราะพืชต้องการออกซิเจนที่ใช้ในการเจริญเติบโตเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าไฟป่าอเมซอนเป็นปัญหาสำคัญต่อสภาพเเวดล้อมโลก ณ ขณะนี้
ทั้งนี้ไฟป่าครั้งนี้มีสาเหตุสำคัญมาจากการเผาป่าโดยมนุษย์เพื่อสร้างพื้นที่ทำกินและทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์